ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๕- มังคลัสฏิทานินีปล เล่ม ๓ - หน้า ๑๗๘
เหมือนกัน. พึงทราบวินิจฉัยแม้ในวิฤาวาร (ต่อไป) เมื่อบุคคล
สั่งว่า "เราก้มไปลาเนื้อ, ท่านทั้งหลายจงจัดชุมเป็นต้นโดยเร็ว,
แล้วไม่ได้อะไร ในปกติโดยก่อนเหมือนกัน, ออกสมอลความไหว
ในวิฤาวารแม้โดยแท้ ถึงกระนั้น ยังไม่อาจเป็นวิฤาวาร เพราะยัง
ไม่ถึงความเป็นกรรมมบ, แต่พึงทราบว่า ชื่อว่าเป็นจริงอย่างเดียว.
แต่พอเมื่อรถเดนมาเกิดขึ้นแล้วในนวทานเท่านั้น ย่อมมีด้วยอำนาจอพยาบาต
หนีด้วยอำนาจปาณฑตบาไม่ เพราะกายกรรม อันเป็นอุดคุล ย่อม
ตั้งขึ้นในในวิฤาวารและวิฤาวาร หลังขึ้นในนวทาราไม่. วิฤาวาร
อันเป็นอุดคุล เกือบมัน. ส่วนมนกรรม อันเป็นอุดคุล ตั้งขึ้น
ในวารแม้นทั้ง ๓. กายกรรม วิฤาวาร และมนกรรม ฝ่ายอุดคุล
ก็เหมือนอย่างนั้น."
[เถนาเบื้องต้นไม่เป็นกายกรรม]
[๒๖๔] ภิกขออธฺถกอุปสลาณินีว่า "เถนτεอนยังประโยค
ให้สำเร็จ, ที่ถึงความเป็นกรรมมบและ พระผู้พระภาคตรัสว่า 'กรรม'
โดยพระบมล่าว่า "ภิกษุทั้งหลาย ความคิดอ่านทางกาย ๗ ประการ
เป็นกรรมมบอากฤษคล คงึเป็นต้น. เพราะเหตุนี้นั่น เถนอันนี้ใน
เบื้องต้นทั้งหมด พระอรรถถากระชิ่งกล่าวว่า 'ไม่เป็นกรรมม
คำว่า อานาเปตุวา ๗ ป ๗ อานนุตวาส พระอรรถถวากล่าวว่า
หมายถึงความที่สัตว์นั้น อนุญาตว่าไม่ใช่. อธิบายว่า อุตุตัน
ชื่อว่าจิจิต เพราะความที่ยังไม่เป็นกรรมมบด."
(จบ)