ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๕- มังคลัตถิปิเป็นแปล เล่ม ๓ หน้าที่ ๒๐
พระธรรมขันพระผู้มีพระภาค ตรัสดีแล้ว พระสงฆ์ปฏิบัติดีแล้ว" ชื่อว่าฐานะคงม ซึ่งในสัททคํานึงอันถูกอบรมด้วยความเลื่อมใส อันเป็นไปในวัตถุ (ธรณี) นั้น ย่อมเป็นบุญมีผลมาก เพราะความถึงพร้อมแห่งองค์เดล ท่านจึงให้แก่บุคคลผู้ได้รับผลมากกว่า
ด้วยว่าฐานะคงม เป็นความถึงพร้อมแห่งอรรถภัย เพราะเป็นความเลื่อมใสในวัตถุกงใหม่กว่า ศีล๕ ของอุบาสกเช่นนั้น ๆ คือ ความสำรวมกายวาจาอันอันชอบสมบัติ (สราณคาม) สนับสนุนแล้ว เหตุ นั้น ท่านที่ให้ในอุบาสกสติ๕ นั้นจึงผลมากกว่าแล้ว ท่านที่ให้แก่ อุบาสกผู้มีศีล ๑๐ มีผลมากกว่านั้น. จริงอยู่ ศีล ๑๐ ชื่อว่าศิลของ อุบาสกอย่างบริบูรณ์ เหตุนัน ท่านที่ให้ในอุบาสกศีล ๑๐ นั้นจึงผล มากกว่าแล. ท่านที่ให้แก่สกุลเทินมีผลมากกว่า นั้น. แก่กิจผู้พ่อ อุปสมบทเสร็จ มีผลมากกว่า นั้น. แก่กิจผู้สมบูรณ์ด้วยวัตร มีผล มากกว่านั้น. ท่านที่ให้แก่ก็ญจปรารภวิสาสนา มีผลมากกว่า นั้น. ก็ ความที่ท่านซึ่งให้ในปฏิท่านั้น ๆ มีผลแตกต่างกัน เพราะความ ที่คุณมีศิลของสามารถเป็นต้น ประเสริฐกว่ากันในเพราะคุณอันยังยาว กว่า กัน ดังนี้แล้ว. อันความที่พระผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรค ชื่อว่าเป็น ผู้มีคุณยังไม่บรรลุ ด้วย เพราะท่านยังไม่เสร็จกิจ เหตุึงก็เล็ดสรรธรรม อนท่านยังคงออยู่ และเหตุใดทานธรรมอันท่านยังเจริญอยู่โดยส่วนนั้น ๆ ความที่พระผู้พร้อมเพรียงด้วยผล ชื่อว่าเป็นผู้มีคุณบริบูรณ์ ก็เพราะท่านเสร็จกิจแล้ว เหตุนี้นั่น พิจารณาความที่พระผู้ดีในผล เป็นของ ดิ่ง กว่าพระผู้ดีในมรรคนัน ๆ.อึ่ง ความที่พระผู้ดีในมรรค อนึ่ง ความที่พระผู้ดีในมรรค