ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๕ – มังคลัตถีทฺปิเปลน ๓ หน้า ๒๘
นั่นให้ เพราะความโลกนัครอบงำไม่ได้ พระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า
โย ฤ ดังนี้เป็นต้น เพื่อแสดงคำทั้งสองนั้น คือ น ทาส น สภโย
โดยนั้นอันค่อยตาม และโดยนั้นตรงกันบ้าน ทายกกล่าวว่าเป็นทาส
(แห่งทาน) ให้ เพราะเป็นผู้เข้าไปใกล้ต่อความเป็นทาสแห่งตนหา
ทายกชื่อว่า เป็นหายแห่งทานให้ เพราะสะสมความเป็นของไม่เป็นรัก
แห่งไทยธรรมมั่น ทายกชื่อว่า เป็นนายให้ เพราะปล่อยตนจากความ
เป็นทาสแห่งตนแท้ในไทยธรรมันครอบงำเป็นไป อีกอย่างหนึ่ง
บุคคลใดชื่อว่าเป็นทายก เพราะให้เป็นปกติ ผู้นั้น โดยประเภทแห่ง
ความเป็นไปในทาน มีประการเป็น ๓ คือ ทาสแห่งทาน สหายแห่งทาน
นายแห่งทาน เพื่อจะแสดงจำแนกความที่ตนมีประการเป็น ๓ นั้น
พระอรรถกถาจารย์ถึงกล่าวว่า “โย ฤ” เป็นต้น ข้าวและน้ำ
เป็นต้น ชื่อว่าทาน เพราะอรรถว่าเป็นของรให้ บรรทามายก็
๓ จำพวกนั้น บุคคลชื่อว่าเป็นจุดกาส เพราะเป็นไปในอำนาจวัตถุที่ตน
บริโภคเอง เหตุที่ดูกันว่ารอบงำ ให้ชื่อว่าเป็นจุดกาส เพราะเป็น
ไปในคำบวา แห่งวัตถุที่ตนไม่ให้แก่ชนเหล่าอื่น นับเช่นนั้น พระ
อรรถกถาย กล่าวว่ากว่า “ทานสุขาดตสุท เทยยุผมุสสุ ทาโล”
นี้ ค็อดิวความที่ข้าวและน้ำเสมอกัน ทายกชื่อว่าเป็นสหายให้
เพราะตั้งของที่ตนรับมิโกค และขอที่พึงให้แกชนอื่นไว้โดยเสมอ ๆ
กัน ทายกชื่อว่าเป็นนายให้ เพราะไม่เป็นไปในอำนาจแห่งธรรม
เอง[[แต่] ทำไทธรรมมันให้เป็นไปในอำนาจของตน อีกนัยหนึ่ง
ผู้ใดบริโภคของประดิษฐ์เอง ให้ของเวลาแก่ผู้อื่น ผู้นั้นชื่อว่าทาสแห่ง