ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค s- มังคลิดาถิ่นนี้เป็นตอนเล่ม ๑ หน้าที่ 119
ว่าม ยุคโก คือ นภที่ได้ชื่ออย่างนั้น ด้วยสามารถการ
ร้องว่า มัยหัง ๆ ของเรา ๆ ในบทว่า คิริสนาทุรียโร มี
วิเคราะห์ว่า [นาฏด] ช่วยเมื่อเข้าข้างขาและในซอกขาทั้งหลาย
เหตุนั้น [นาฏด] ชื่อคิริสนาทุรี [ตัวเที่ยวไปข้างและซอกแห่ง
เขา] สองว่ากว่า ปกิล ปิยม ดี คือ ต้นไม้เสียงอันสะพรั่งไปด้วย
ผลต้นหนึ่ง ในมิววันประเทศ. บทว่า กนกฏิ มีความว่า เที่ยว
ร้องพี่อยู่ว่า "ของเรา" เพื่อจะห้ามฝุ่นบั้งหลายล้อมต้นไม้
นั่นกินผลที่สุด. บทว่า ตลเสว่า ความว่า เมื่อมีร้องพร่ำอย่างนั้น
นั้นแหละ. บทกล่าวว่า ภูวบุตร ปิยมดี ยนุตติ ความว่า ฝูงปิยบี
าพกันกินผลเสียบันนั้นแล้ว ก็ย่อมบินไปหาดอื่นที่สมบูรณ์ด้วยผล.
บทว่า วิลตฺตา ความว่า ฝ่ายกิรัตตัวนั้น ก็ยังร้องพร่ำอยู่เนืองตนเอง.
บทว่า ยโส คือ ตามส่วน ได้แก่ส่วนใด ๆ [ที่นดควรจะให้]
แก่มารดาบิดา พี่น้องชายหญิงบุตรและธิดาเป็นต้น ด้วยสามารถเป็น
เครื่องอุปโภคและบริโภค, ย่อมไม่ให้ส่วนตน ๆ บทว่า สกิ คือ
คนเองก็ไม่บริโภคแม้ว่าครั้งเดียว. ความว่า ไม่ใช่ของของคน
ดั่งนี้มีม. บทว่า น สงคุณาดี คือ ไม่สงเคราะห์ (พวกญาติ)
ด้วยสามารถแห่งวัตถุ, มืออารเครื่องนุ่งห่มพิพิธพันธุ์และไกเป็นต้น.
บทว่า วิลตฺตา ความว่า เมื่อพระราชเปนต้นเหล่านั้น. ขนเอา
ทรัพย์ไป บูรณะนั้น กินเป็นพออยู่ถ่ายเดียวเท่านั้น. บทว่า ธิรัง ได้แก่
บันฑิต. บทว่า สงคุณาดี คือ ย่อมสงเคราะห์ญาติทั้งหลายผู้ทรงพล
แม่ที่มาหาตน ด้วยการให้วัตถุมีอารเครื่องนุ่งห่มพิพิธพันธุ์และไก