ข้อความต้นฉบับในหน้า
จิตตกฤดูแห่งกราบกอว่ากว่า เนพงั์ฉั นั้นเอง เป็นชื่อของศิศ ทั่งหลาย พระเจ้บ้า ฯลฯ ฯลฯ าชื่อเป็นวางอ่อนโยน เพราะเป็นวาไม่มีหยาด ปรุงศัพท ใบว่า ปรุงส เอก นัน บัณฑิตพึ่งเห็นว่า เป็นศัพท์ บงถึงชนะผู้อ่านอยู่ในบทนิ ย์ คูามศัพท์ ในประกอบว่า คาม อาคโต เป็นดังนั้น เหตุนี้เอง พระอรรถกา- รองเทจึงกล่าวว่า 'นครวาสิณี' ดังนี้ วาท่ือว่ามานาไป เพราะ วิลายหัวว่า ยังใจให้อ้อม คือ ให้เจริญใจ. เหตุนี้ พระอรรถกา- รายจึงกล่าวว่า จิตดูฏูกติกรา." [7] ษฎา สละยกสูตร ว่า "ว่ากว่า หทยมนูสูยา คือ ซึ่งจากที่ไม่ควรจะไปใจเก็บไว้ เพราะเป็นวาไม่มีประโยชน์ บทว่า อนุเนาส์ คือ ปราศจากซึ่ง รอจากที่อ๋อ้งถือว่าสูตรว่า คำอย่างนี้ พระผู้พระภาค ตรัสไว้แล้วในสูตรนี้นั่น ดังนี้. บทว่า อปริเฉท คือ ปราศจาก กำหนด ก็วา ย่อมเป็นวาจาอันปราศจากกำหนด ด้วยประการใด พระอรรถกาจึงกล่าวว่าคำว่า สุตฏว า ดังนี้ เป็นดัง เพื่อแสดงประการนั้น. บทว่า อุปมฏ์ คือ คำอันเปนอปโยค. สุตฏ- หรือชาดก ที่อันจากความประกอบด้วยพาหิรกาอันดกอบนี้ไม่แล้ว พระธรรมกิติ ไม่ว่าจะถึงอาขวามเป็นโครงของสูตรหรือชาดกนั้น กล่าวแต่ว่าที่บ่งบอกจากสูตรหรือชาดกนั้นอย่างเดียว. บทว่า ลม- ปฏิสุตวา คือ ถึงซึ่งความงามของงาม. บทว่า ปรวิตฉาต ว คือ รากแห่งไทรอันเป็นเชื่อสายันแน ล่อมงอกขึ้น. บทว่า อาหารฏวา คือ นำมาเมื่อตำคำอันจากสูตรที่ทนยกขึ้นแล้วให้เป็นวาจาประกอบด้วย