ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๕ - มังคลิดกานนี้นี้แปล เล่ม ๓ - หน้าที่ 87
อนุบุคคลเหล่านั้น (ไม่ให้แล้ว) บุคคลอันเขรียวว่านโยมด้วยสามารถแหงจิตใจ จิตนั้นชื่อว่า เดาย เพราะเหตุนี้ พระอรรคถากาจึงกล่าวว่า "อารณะจิตสุดสเต อริยวา" ดังนี้ บุคคลอยู่อื่นเป็นผู้ถือเอาทรัพย์ของผู้อื่น ด้วยส่วนแห่งจิตเครื่องวโย อธิบายย่า ย่อมทาเป็นผู้อื่นเอาด้วยอำนาจแห่งอารณสุขท์ มีความคุ้นเคยและยอมเป็นต้นไม้ ว่ากพท์ ในบทว่า มต วา เป็นวิบัติอันอาจรายมีไดกว่าว่าว่าไดแล้ว เพราะเหตุนี้ว่า วาทพันนั้น จึงสมรรวะเหตุหมูมีความเป็นบรรพิตเป็นต้นเข้าด้วย พระอรรคถากาจยังกว่า เอเตนุปายเนน ดั่งนี้ หมายเอาคำอธิบายอย่างนี้ว่า "เมื่อมาตราตายเสกก็ดี สุขหายไป เสียก็ดี บิดาราณิดาไดไว เตือนนั้น ชื่อวาหญิงอันบิดาเปรส เมื่อบิดามารดาขังสอนให้ พี่น้องชายอ่อยรักษาหญิงคนใดว่า หญิงคนนันชื่อว่า เป็นหญิงอันนี้น้องชายรักษาแล้ว' บทว่า สภาคูลาน คือ ตระกูล 'ทั้งหลายที่สมอภักกัน ด้วยการทำอาวามมงคลและวิวาหมงคล [๓) จริงอยู่ พระมีพระภาคไม่ทรงแสดงคำนี้ว่า "โคตฺวา-รุกา" ทุมมารุกา สารกา' ดังนี้ ไว้ในพระบาลี แต่กล่าวว่า สตูมิกา มาในอาคตสถานแห่งสารรักษ์ ทุรินั้น พระภูฎ-ารย์จึงกล่าวไว้ในภูฎาสมาคมฤษฏิอิตมูลว่า "สตูมิกา สารกา ดังนี้"
[๒๕] ภิกษาสละเอกรวว่า "อิสระวนต์หลายมีพระราชเป็นต้น ตั้งอาญาไว้เฉพาะทางชื่อในนามหรือ (หรือชื่อในนาม) บทว่า สมมาท ทิฐิสุตฺต คือบุคคลอ้อมเป็นผู้ทำความก้าวล่วง ด้วยสามารถมิฉฉาจาร-