ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค ๕ - มังคลัลคาถานี้เป็นแปล เล่ม ๓ หน้า ที่ ๑๙๑
สมาทานอยู่เฉพาะองค์ใด วิธีดีก็ดี เจดนาคดีดี (แบ่ง) เป็น ๕
ด้วย. ก็บรรดาสิกขาบท ๕ ข้างต้นนี้ ของสามเณรทั้งหลาย เมื่อ
สิกขาบทข้อหนึ่งทำลายแล้ว สิกขาบทมันทั้งหมด ก็เป็นอันทำลาย.
เพราะว่าทั้งสิกขาบทนั้นๆ นั้น ต้องอยู่ในฐานะปราศจาก สิกขาบทนั้นใด
เป็นวิถีมะ อันสามเณรเหล่านั้นก้าวล่วงแล้ว กรรมพันธุ์อายุอมมี
เฉพาะสิกขาบทนั้นเท่านั้น ส่วนสำหรับพวกคฤหัส เมื่อสิกขาบาท
ข้อนี้ทำลายแล้ว ก็เป็นอันทำลายเฉพาะข้อเดียวเท่านั้น เพราะ
เหตุที่สัปปลอบด้วยองค์ ๕ จะสำเร็จแกลกุตทัลเหล่านั้นได้ก็ก (ก็)
ด้วยการสมาทานสิกขาบทเหล่านั้นแหละ ข้อนั้นใด แม้กุศลกิจ
เหล่านั้นก้าวล่วงแล้ว กรรมพันธุ์ก็มีเฉพาะข้อนั้นเท่านั้น.
ส่วนอาจารย์อีกพวกหนึ่ง กล่าวว่า "บรรดาสิกขาบทที่พวก
คฤหัส สำทานเป็นแผนๆ เมื่อข้อหนึ่งทำลายแล้ว ก็เป็นอัน
ทำลายเฉพาะข้อเดียวเท่านั้น. แต่เมื่อกุศลกิจเหล่านั้นสมาทานรวม
กันอย่างว่าจะนั่นว่า 'ข้าพเจ้า สมาทานศีลประกอบด้วยองค์ ๕' ดังนี้
เมื่อสิกขาบทข้อหนึ่งทำลายแล้ว สิกขาบทแม่ ทั้งหมดก็เป็นอันทำลาย.
เพราะเหตุไฉไร? เพราะความที่การสมาทานไม่แยกกัน.."
[๑๙๓] ก็ว่า "อปร" นั่น พระอรรถกถาจะกล่าวหมาย
เอาอาจารย์ผู้กล่าวคำนี้มีรังเกียจ. จริงอย่างนั้น ในอรรถกถากุฎ-
ันทสูตร พระอรรถกถาจะกล่าวว่า ว่า "ผู้ได้รับสิกขาบท ๕ โดย
ร่วมกัน, เมื่อสิกขาบทข้อหนึ่งของผู้รับนั้นทำลายแล้ว สิกขาบทแม่"