ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยคที่ ๕ - มงคลดิถีบันเทิง ๑๓ หน้า 177
เมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุไฉนพระผู้มีพระภาคจึงทรงสร้าฯอ้าง * พระอรรถ-ถาคตาจึงกล่าวว่า คาถาพนธ์ ดังนี้. อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคได้รสสัมผัสเป็นอาธเพื่อความสบายใจได้โดยสะดวก. "๒๖๓) เพราะพระบาลีว่า กุมภูมิลา ดังนี้ จึงควรถืออา อุทธุธรรมมิได้ปานตั้งแต่ต้น ที่ถึงความเป็นธรรมดาเท่านั้น ไม่ควรถือเอาอุทธุธรรมที่เป็นเพียงทุกขิตลย. เพราะอุทธุไม่เป็นกาย-กรรมและวิญญาณที่จะพึงกล่าวว่า "ทุกขิต" ก็มี. เหตนั้น พระอรรถกถาจึงกล่าวไว้ในอรรถกถาอธิบายว่า "ก้อนอังคิลความไหวในกายทวารและวิญญาณแล้ว แม้งไม่ถึง (ความเป็น) กรรมบถมิอยู่, และที่ถึงความฟุ้งขึ้นในนมทวารแล้ว แม้งไม่ถึง (ความเป็น) กรรมบถกมิ, บัณฑิตทั้งหลาย ถืออาธดับอันยังไม่ถึงความเป็นกรรม-บถนั้น จึงได้จี้ให้เป็นฝ่ามือแห่งวารนั้น ๆ เท่านั้น. ในคำนัน มีชัยคงต่อไปนี้ :-
บุคคลคิดว่า จักไปล่ามเนื้อ เตรียมธัน ฟันสาย ลำหอกร บริโภค อาหาร นุ่มนวล; เพราะเหตุเพียงเท่านี้เลย อุทธุธรรมเป็นธรรมชาติจึงความไหวในกายทวาร. เขาเที่ยวไปในปลันทั้งวัน ไม่ได้โดยที่สุด แม้สะกดตายและตุ่น, ถามว่า 'อุทธุธิ' จะชื่อว่าเป็นกายกรรมหรือไม่ เป็น? ก็ตว่า 'ไม่เป็น.' เพราะเหตุไร จังไม่เป็น? เพราะยังไม่ถึงกรรมบถ. แต่อุทธุคนนั้น พึงทราบว่า ชื่อว่าเป็นกายกรรมอย่างเดียว. นั่นแม้ประโยคทั้งหลาย มีการจับปลดเป็นต้น ก็เช่นนี้
๑. อุทธุสานิน ๑๓๐.