ข้อความต้นฉบับในหน้า
**
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ -
- หน้าที่ 73
นอกนี้ ก็หารู้ว่า "ปฐวีธาตุเป็นที่ตั้งแห่งเราทั้งหลาย จึงเป็นปัจจัย
(ของเราทั้งหลาย) " ดังนี้ไม่ นัยในธาตุทั้งปวงก็ดุจนัยนี้ พระโยคาวจร
พึงมนสิการ โดยไม่มีคิดคำนึง ดังกล่าวมาฉะนี้
[ความจำแนกปัจจัย]
ข้อว่า "โดยจำแนกปัจจัย" นั้น มีพรรณนาว่า ก็ปัจจัยของธาตุ
ทั้งหลายมี ๔ คือ กราม จิต อาหาร ฤดู" ในปัจจัยเหล่านั้น กรรม
นั่นเอง เป็นปัจจัยของธาตุทั้งหลายที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน ปัจจัยธรรม
(อีก ๓) มีจิตเป็นต้นหาเป็นปัจจัยไม่ ธาตุทั้งหลายที่มีจิตเป็นต้นเป็น
สมุฏฐานเล่า ก็มีปัจจัยธรรม (ตามลำดับ) มีจิตเป็นต้นนั่นเองเป็น
ปัจจัย ธรรมนอกนี้หาเป็นปัจจัยไม่
อนึ่ง กรรมเป็นชนกปัจจัยแห่งธาตุทั้งหลายที่มีกรรมเป็นสมุฏฐาน
เป็นอุปนิสสยปัจจัยแห่งธาตุที่เหลือ (มีธาตุที่มีจิตเป็นสมุฏฐานเป็นต้น)
โดยปริยาย
จิต เป็นชนกปัจจัยแห่งธาตุทั้งหลายที่มีจิตเป็นสมุฏฐาน เป็น
ปัจฉาชาตปัจจัย อัตถิปัจจัย และอวิตปัจจัยแห่งธาตุที่เหลือ
มหาฎีกาชี้ข้อสังเกตความแปลกกันแห่งข้อ ปจจัยโต ที่กล่าวแล้ว กับข้อนี้ ว่า ข้อ
ปัจจยโต นั้น กล่าวความที่ธาตุ ๔ เป็นปัจจัยของกันและกัน ส่วนข้อนี้กล่าวถึงสิ่งที่เป็น
ปัจจัยให้ธาตุ ๔ นั้นเกิดขึ้น โดยนัยต่าง ๆ อย่างละเอียด
ท่านว่า กรรม หมายถึงกุศลและอกุศลที่เป็นปัจจัยให้รูปเกิดขึ้น จิต ก็หมาย
ถึงจิตอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นปัจจัยให้รูปเกิดขึ้น อาหาร หมายถึงอาหารภายในตนที่เป็น
ปัจจัยให้รูปเกิดขึ้น ฤดู ก็ฤดูอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งโดยความก็มุ่งเอาเตโชธาตุ