ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 121
(๑๒) จิตที่วิริยะกำกับแล้ว ชื่อว่า อาเนญชะ เพราะไม่หวั่นไหว
ด้วยโกสัชชะ
(๑๓) จิตที่สติกำกับแล้ว ชื่อว่า อาเนญชะ
ด้วยปมาทะ
เพราะไม่หวั่นไหว
(๑๔) จิตที่สมาธิกำกับแล้ว ชื่อว่า อาเนญชะ เพราะไม่หวั่นไหว
ด้วยอุทธัจจะ
เพราะไม่หวั่น
(๑๕) จิตที่ปัญญากำกับแล้ว ชื่อว่า อาเนญชะ เพราะ
ไหวด้วยอวิชชา
(๑๖) จิตที่ถึงความสว่างแล้ว ชื่อว่า อาเนญชะ เพราะไม่หวั่น
ไหวด้วยความมืดคืออวิชชา
นี่มูล ๑๖ แห่งฤทธิ เป็นไปเพื่อความได้ฤทธิ ฯลฯ เพื่อความ
กล้าแห่งฤทธิ" ดังนี้
ความข้อ (ที่ว่าไม่หวั่นไหวเพราะโกสัชชะเป็นต้น) นี้ เป็นอัน
เสร็จไปแล้ว แม้ด้วยปาฐะ (พระบาลี) ว่า เอว์ สมาหิเต จิตฺเต
ครั้นเมื่อจิตตั้งมั่น ... อย่างนี้แล้ว " ดังนี้เป็นต้น " โดยแท้ แต่ว่าท่าน
กล่าวไว้อีก ก็เพื่อแสดงความที่ฌานมีปฐมฌานเป็นอาทิ เป็นภูมิ เป็น
บาท เป็นบท และเป็นมูลแห่งฤทธิ์ อนึ่ง นับก่อนเป็นนัยมาในพระสูตร
ทั้งหลาย นัยนี้มาในปฏิสัมภิทา ท่านกล่าวไว้อีกเพื่อไม่หลงในนัยทั้ง
สอง ดังนึกไ
ดังนี้ก็ได้
๑. ขุ. ป. ๓๑/๕๕๐ (อาเนญชะ ที่กล่าวทั้งปวงนี้ หมายถึงฌานเท่านั้น)
๒. เพราะในบาลีนี้มีบท "อาเนญชปุปตฺเต - ถึงซึ่งความไม่หวั่นไหว" อยู่ด้วยแล้ว