ข้อความต้นฉบับในหน้า
-
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 113
[๑๐ ตตฺถ ตตฺถ...อิชฌนฏเจน อิทธิ]
ส่วนว่าความสำเร็จแห่งกรรมนั้น ๆ เพราะความประกอบชอบ
นั้น ๆ ชื่อว่า ตตฺถ ตตฺถ สมมาปโยคปจฺจยา อิชฌนฏฺเฐน อิทธิ
- ฤทธิโดยความหมายว่าสำเร็จ เพราะประกอบชอบในกิจนั้น ๆ เป็น
ปัจจัย ดังพระบาลีว่า "ผลคือการละกามฉันท์ ย่อมสำเร็จด้วยเนกขัมมะ
ๆ
เพราะเหตุนั้น ผลนั้นจึงชื่อว่าฤทธิ์ โดยความหมายว่าสำเร็จ เพราะ
ประกอบชอบในกิจนั้น ๆ เป็นปัจจัย ฯลฯ ผลคือการละกิเลสทั้งปวง
ย่อมสำเร็จด้วยอรหัตมรรค เพราะเหตุนั้น ผลนั้นจึงชื่อว่าฤทธิ์ โดย
ความหมายว่าสำเร็จ เพราะประกอบชอบในกิจนั้น ๆ เป็นปัจจัย"
ก็บาลีมาในนิเทศแห่งฤทธิข้อที่ ๑๐ นี้ ก็เป็นเช่นเดียวกับบาลีใน
นิเทศแห่งฤทธิข้อก่อน ๆ (มีสมาธิวิปผาราอิทธิเป็นต้น) โดยแสดง
สัมมาปโยค ที่ได้แก่การปฏิบัติเหมือนกัน แต่มาในอรรถกถาว่า "ความ
วิเศษที่เกิดขึ้นเพราะทำการนั้น ๆ คือศิลปกรรม (แสดงฝีมือ) อย่างใด
อย่างหนึ่ง โดยสามารถทำพยุหะ (ค่ายกล ?) มีสกฏพยุหะ (กลกอง
เกวียน ?) เป็นต้น" เวชกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง การเรียนไตรเพท
๑. ขุ. ป. ๓๑/๖๐๑.
๒. ตรงนี้มหาฎีกาแก้ สกฏพยูหาที่กรณ เป็นการจัดพยุหะต่าง ๆ มี สกฏพยุหะ จักร
พยูหะ และปทุมพยูหะเป็นต้น พยุหะต่าง ๆ นี้ น่าจะมีพรรณนาไว้ในตำราพิชัยสงคราม
หรือตำราตั้งค่ายกล ซึ่งจะต้องใช้เวลาไปค้น เวลานี้ได้พบแต่คำอธิบายปทุมพยุหะ ว่า
ไว้ย่อ ๆ ว่า ยุทธวิธีแบบหนึ่ง จัดพลรบเป็นแนวรูปวงกลมซ้อนกันเป็นชั้น ๆ อย่างกลีบ
ปทุม.
และมหาฎีกาบอกสัมพันธ์ไว้ว่า บทสกฎ...วเสน นี้ เข้ากับบท นิพฺพตฺตวิเสโส
เห็นว่าไกลไป ที่จริงเป็นตติยาวิเสสนะในบท สิปปกมุม ใกล้ ๆ นั่นเอง เพราะท่าน