ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ -
- หน้าที่ 81
บาทแห่งอภิญญา (ความรู้ยิ่ง) ออกจากสมาบัติแล้ว ปรารถนาอยู่
ก็ทำอภิญญาอันมีนัยที่กล่าวไว้โดยประการว่า "เป็นคนเดียวแล้ว
(อธิษฐานให้) เป็นมากคนก็ได้" ดังนี้เป็นต้นให้เกิดขึ้นได้ การเจริญ
อัปปนาสมาธิแห่งภิกษุเหล่านั้น ชื่อว่ามีอภิญญาเป็นอานิสงส์ เพราะ
สมาธินั้น ในเมื่อเหตุ (ที่จะให้ได้อภิญญา) มีพร้อมอยู่ เป็นปทัฏฐาน
แห่งอภิญญาได้ เพราะเหตุนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ว่า "เธอ
น้อมจิตไปเฉพาะเพื่อทำให้แจ้งด้วยอภิญญา ซึ่งธรรมอันพึงทำให้แจ้ง
ด้วยอภิญญาใด ๆ ก็ดี เธอก็บรรลุความเป็นผู้อาจเพื่อทำให้ประจักษ์ได้
ในอภิญญาสัจฉิกรณียธรรมนั้น ๆ ทีเดียว ในเมื่อเหตุ (ที่จะให้ได้
อภิญญา) มีพร้อมอยู่"
[มีภพวิเศษเป็นอานิสงส์]
(๔) บุถุชนเหล่าใดมีฌานไม่เสื่อม ปรารถนาความเข้าถึง
พรหมโลก ว่าเราจักเกิดในพรหมโลก หรือแม้ไม่ปรารถนาก็ตาม (แต่)
ไม่เสื่อมจากสมาธิ การเจริญอัปปนาสมาธิแห่งบุถุชนเหล่านั้น ชื่อว่ามี
ภพวิเศษเป็นอานิสงส์ เพราะสมาธินั้นนำภพวิเศษมาให้ เหตุนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ว่า "ถามว่า บุคคลทั้งหลายบำเพ็ญปฐม
๑. มหาฎีกาว่า อายตนะ ในที่นี้หมายถึงเหตุที่จะให้ได้อภิญญา อันสำเร็จมาแต่ชาติก่อน
เพราะว่าผู้จะได้อภิญญานั้นต้องเป็นคนมีอธิการ (คือบุญบารมี) ซึ่งลางทีก็เรียก "ปุพเพ
เหตุ" มิใช่ได้เพราะความเชี่ยวชาญในสมาบัติ
๒. อง, ตึก, ๒๐/๓๓๑.