ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 4
มุ่งหน้าสู่ป่าช้าไป (เพื่อต้องการซากศพ) ฉะนั้น เมื่อไปอย่างนั้น
เล่า ตั้งแต่ลงเตียงหรือตั่งไป ก็ต้องเครื่องลาดอันเกลื่อนกล่น
ของพวก
ไปด้วยสิ่งไม่สะอาดมีละอองติดเท้าและมูลจิ้งจอกเป็นต้น ต่อนั้นไปก็
จำต้องเจอหน้ามุขอันปฏิกูลยิ่งกว่าภายในห้อง เพราะลางทีก็ถูกสิ่งปฏิกูล
มีมูลหนูและมูลค้างคาวเป็นต้นทำให้เสียไป ถัดออกไปก็จำต้องเจอ
พื้นล่าง (กุฎี) ซึ่งปฏิกูลยิ่งกว่าชั้นบน เพราะลางทีก็เปรอะไปด้วยมูล
นกเค้าและมูลนกพิราบเป็นต้น ต่อออกไปก็จำต้องเจอบริเวณอันปฏิกูล
ยิ่งกว่าพื้นล่าง (ของกุฎี) เพราะลางทีก็สกปรกไปด้วยหญ้าและใบไม้
เก่า ๆ ที่ลมพัดมา ด้วยปัสสาวะ อุจจาระ น้ำลาย น้ำมูก
สามเณรที่เป็นไข้ และด้วยน้ำและโคลนในหน้าฝนเป็นต้น ทางเดิน
ไปวิหาร (จากบริเวณ) อันปฏิกูลยิ่งกว่าบริเวณไปอีก ก็จำต้องเจอ
อนึ่ง เธอผู้ไหว้พระโพธิ์และพระเจดีย์โดยลำดับแล้ว (ไปหยุด) ยืน
อยู่ที่วิตักมาลก (โรงหยุดตก) ตรึกไปว่าตนจำต้องไม่เหลียวแล
พระเจดีย์อัน (งาม) เช่นกับกองแก้วมุกดา และพระโพธิ์อัน (งาม)
จับใจเช่นกับกำหางนกยูง และเสนาสนะอัน (งาม) มีสง่าด้วยความ
ไม่สมกับคำพรรณนาชมเสนาสนะ (ถัดไป ๓ บรรทัด) ที่ว่างามสง่าราวกะเทพพิมาน
ด.
น่ารื่นรมย์.
๒. มหาฎีกาว่า "เป็นที่ ๆ ภิกษุไปหยุดตรึกว่า วันนี้จะไปภิกขาที่ไหนหนอ " ใน
วิสุทธิมรรคแปลร้อยอธิบายเพิ่มเติมเอาไว้ว่า " วิตักกมาลกนั้น เป็นโรงสำหรับภิกษุ
ผู้ถือบิณฑบาต แต่ในขณะไปยืนอยู่ที่โรงวิตกนั้นเวลาเดียว เวลานอกนั้นเธอตรึกอยู่แต่ใน
พระกรรมฐานทั้งวันทั้งคืน" ชอบกล ทำไมต้องทำที่ไว้ให้ไปหยุดตรึก จะตรึกเสียที่กุฏิ
หรือที่อื่นไม่ได้หรือ.