ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 173
[วิธีทำทิพยโสต]
ปุจฉาว่า "ก็ทิพยโสตธาตุนี้ พระโยคาวจรภิกษุจะพึงให้เกิดขึ้น
ได้อย่างไร ?" วิสัชนาว่า ภิกษุนั้นเข้าฌานอันเป็นบาทแห่งอภิญญา
ออกแล้วจึงอาวัชนาการถึงเสียงสัตว์มีสีหะเป็นต้นในป่า อันเป็นเสียง
หยาบ ในระยะไกลขนาดโสตวิสัยปกติเข้าก่อนอื่น ด้วยสมาธิจิตส่วนที่
เป็นบริกรรม (แห่งทิพพโสตญาณ) (ต่อนั้น) จึงอาวัชนาการถึง
เสียงที่ละเอียด ๆ เข้าตามลำดับ จับแต่เสียงที่หยาบกว่าเพื่อนดังนี้คือ
เสียงระฆังในวิหาร เสียงกลอง เสียงสังข์ เสียงสวดของสามเณรและ
ภิกษุหนุ่มผู้สวดเต็มแรง เสียง (ถามกัน) ว่า "อะไรท่าน อะไรคุณ"
เป็นต้น ของภิกษุสามเณรเหล่านั้นผู้พูดกันอยู่เป็นปกติ เสียงนก เสียง
ลม เสียงเท้า เสียงฉี่ ๆ ของน้ำเดือด เสียงใบตาลแห้งกรอบในแดด
เสียงแมลงมีมดดำมดแดงเป็นต้น ภิกษุนั้นพึงมนสิการถึงสัททนิมิต
แห่งเสียงทั้งหลาย ในทิศตะวันออก จึงมนสิการถึงสัททนิมิตแห่งเสียง
ทั้งหลายในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ....ทิศตะวันตกเฉียงใต้....ทิศตะวันตก
เฉียงเหนือ....ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จึงมนสิการถึงสัททนิมิตแห่งเสียง
ทั้งหลาย ทั้งหยาบทั้งละเอียด เสียงเหล่านั้นย่อมปรากฏชัด) แก่เธอ
ผู้แม้มีจิตเป็นไปตามปกติ แต่มันย่อมจะปรากฏ (ชัด) อย่างยิ่งแก่เธอ
ผู้มีสมาธิจิตในบริกรรม
*
มหาฎีกาว่า เสียงนั่นเอง ท่านเรียกว่า สัททนิมิต เพราะเป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งญาณ
หรือมิฉะนั้นก็หมายถึงอาการหยาบละเอียดแห่งเสียงทั้งหลายตามที่กล่าวมา