ข้อความต้นฉบับในหน้า
*
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 125
เว้นพระจุลปันถก" พระจุลปันถูก (เสียใจไป) ยืนร้องไห้อยู่ที่ซุ่มประตู
(วัด) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นด้วยทิพจักษุ ก็เสด็จไปหาเธอ รับสั่ง
(ถาม) ว่าร้องไห้ทำไม เธอกราบทูลเล่าความเป็นมานั้น (ให้ทรงทราบ)
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส (ปลอบ) ว่า "ผู้ไม่อาจทำการท่อง (คาถา) ได้
จะนับเอาเป็นอภัพในศาสนาของเราหามิได้ อย่างโศกเศร้าไปเลย
ภิกษุ" แล้วทรงจับเธอที่แขน (จูง) เสด็จเข้าสู่วิหาร ทรงเนรมิตผ้า
(ขาว) ขึ้นท่อนหนึ่งด้วยพระฤทธิ์ประทานให้ ทรงแนะว่า "เอาเถิด
ภิกษุ เธอจงลูบผ้านี้ไปมาพลางท่อง (คำ) ว่า "รโชหรณ์ รโชหรณ์
- ปัดธุลี ปัดธุลี" ไว้ร่ำไปเถิด" เมื่อเธอทำอย่างนั้นไป ผ้านั้นก็เกิด
มีสีดำขึ้น เธอก็ได้ (ปฏิกูลและอนิจจ) สัญญาขึ้นว่า "ผ้า (นี้) สะอาด
โทษในผ้านี้หามีไม่ แต่โทษ (คือความมีสีดำขึ้น) นี้ เป็นโทษของ
ร่างกาย" แล้วหยั่งญาณลงในปัญจขันธ์ เจริญวิปัสสนาไปจนถึง (ขณะ)
แต่อนุโลมญาณไปใกล้โคตรภูญาณ ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส
โอภาสคาถาแก่เธอว่า
"ราคะ เรียกว่า ธุลี แต่ละออง (ภายนอก) ไม่
เรียกว่าธุลี (ในอริยวินัย) คำว่าธุลีนั่นเป็นคำเรียก
ราคะ บุคคลทั้งหลายผู้ที่ละธุลี (คือราคะ) นั้นได้
แล้ว ก็เป็นบัณฑิตอยู่ในศาสนาของพระองค์ผู้
ปราศจากธุลีได้
มหาฎีกาว่า คาถาที่พระผู้มีพระภารเจ้าทรงเปล่งแสงสว่างไปปรากฏแก่ผู้ฟังก่อนแล้ว
จึงตรัส เรียกว่า โอภาสคาถา.