การรับรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าในวิสุทธิมรรคแปล วิสุทธิมรรค ภาค 2 ตอน 2 หน้า 125
หน้าที่ 125 / 244

สรุปเนื้อหา

ในบทนี้ พระจุลปันถูกยืนร้องไห้อยู่ที่ประตูเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นและเข้าไปปลอบพระจุลปันถูก โดยตรัสว่าผู้ที่ไม่สามารถท่องคาถาได้ไม่ถือเป็นความผิดในศาสนา พระองค์จูงมือเธอเข้าสู่วิหาร และเนรมิตผ้าขึ้นเพื่อให้เข้าใจถึงความเป็นไปของร่างกายและการปฏิบัติธรรม เมื่อพระจุลปันถูกปฏิบัติตามพระคำสั่ง ก็เกิดมีการพิจารณาและเข้าใจในคุณค่าของการละราคะและธุลีซึ่งเป็นอุปสรรคในการบรรลุธรรม โดยพระองค์ตรัสโอภาสคาถาซึ่งอธิบายหลักการนี้อย่างลึกซึ้ง

หัวข้อประเด็น

-บทสนทนาระหว่างพระพุทธเจ้าและพระจุลปันถูก
-การเข้าใจราคะและธุลี
-การบรรลุธรรม
-การปฏิบัติวิปัสสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

* ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 125 เว้นพระจุลปันถก" พระจุลปันถูก (เสียใจไป) ยืนร้องไห้อยู่ที่ซุ่มประตู (วัด) พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นด้วยทิพจักษุ ก็เสด็จไปหาเธอ รับสั่ง (ถาม) ว่าร้องไห้ทำไม เธอกราบทูลเล่าความเป็นมานั้น (ให้ทรงทราบ) พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส (ปลอบ) ว่า "ผู้ไม่อาจทำการท่อง (คาถา) ได้ จะนับเอาเป็นอภัพในศาสนาของเราหามิได้ อย่างโศกเศร้าไปเลย ภิกษุ" แล้วทรงจับเธอที่แขน (จูง) เสด็จเข้าสู่วิหาร ทรงเนรมิตผ้า (ขาว) ขึ้นท่อนหนึ่งด้วยพระฤทธิ์ประทานให้ ทรงแนะว่า "เอาเถิด ภิกษุ เธอจงลูบผ้านี้ไปมาพลางท่อง (คำ) ว่า "รโชหรณ์ รโชหรณ์ - ปัดธุลี ปัดธุลี" ไว้ร่ำไปเถิด" เมื่อเธอทำอย่างนั้นไป ผ้านั้นก็เกิด มีสีดำขึ้น เธอก็ได้ (ปฏิกูลและอนิจจ) สัญญาขึ้นว่า "ผ้า (นี้) สะอาด โทษในผ้านี้หามีไม่ แต่โทษ (คือความมีสีดำขึ้น) นี้ เป็นโทษของ ร่างกาย" แล้วหยั่งญาณลงในปัญจขันธ์ เจริญวิปัสสนาไปจนถึง (ขณะ) แต่อนุโลมญาณไปใกล้โคตรภูญาณ ขณะนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัส โอภาสคาถาแก่เธอว่า "ราคะ เรียกว่า ธุลี แต่ละออง (ภายนอก) ไม่ เรียกว่าธุลี (ในอริยวินัย) คำว่าธุลีนั่นเป็นคำเรียก ราคะ บุคคลทั้งหลายผู้ที่ละธุลี (คือราคะ) นั้นได้ แล้ว ก็เป็นบัณฑิตอยู่ในศาสนาของพระองค์ผู้ ปราศจากธุลีได้ มหาฎีกาว่า คาถาที่พระผู้มีพระภารเจ้าทรงเปล่งแสงสว่างไปปรากฏแก่ผู้ฟังก่อนแล้ว จึงตรัส เรียกว่า โอภาสคาถา.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More