วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ วิสุทธิมรรค ภาค 2 ตอน 2 หน้า 9
หน้าที่ 9 / 244

สรุปเนื้อหา

บทความนี้วิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารที่เข้าสู่กระเพาะอาหารและความปฏิกูลที่เกิดขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าอาหารที่มีอาสยะประเภทต่างๆ จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของบุคคลและร่างกาย อีกทั้งยังทำการเปรียบเทียบอาหารที่ผ่านการกลืนลงไปเหมือนกับของเสียในหลุมที่ไม่ได้ทำความสะอาด ตัวอย่างเปรียบเทียบที่ใช้ในการวิเคราะห์คือ อาหารที่เปรียบเทียบเป็นสิ่งสกปรกหรือมลพิษ จึงก่อให้เกิดความเข้าใจในด้านคุณภาพของอาหารและการดูแลสุขภาพในหลักการพุทธอย่างลึกซึ้ง.

หัวข้อประเด็น

-การวิเคราะห์อาหาร
-ความปฏิกูลในกระเพาะอาหาร
-สุขภาพตามหลักพุทธศาสนา
-ผลกระทบของอาหารต่อร่างกาย
-อาสยะประเภทต่างๆ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 9 แก่พระเจ้าจักรพรรดิ แต่สำหรับพวกคนมีปัญญาอ่อน" อาสยะมีทั้ง ๔ อย่าง เพราะเหตุนั้น ผู้ใดมีปิตตาสยะยิ่ง (อาหารที่เข้าไปในลำไส้) ของผู้นั้น ก็เป็นเหมือนเปรอะด้วยยางมะซางข้น ๆ น่าเกลียดยิ่งนัก ผู้ใดมีเสมหาสยะยิ่ง ของผู้นั้นก็เป็นเหมือนเปรอะด้วยน้ำในแตงหนู ผู้ ใดมีปุพพาสยะยิ่ง ของผู้นั้นก็เป็นเหมือนเปรอะด้วยเปรียงเน่า ผู้ใด มีโลหิตาสยะยิ่ง ของผู้นั้นก็เป็นเหมือนเปรอะด้วยน้ำย้อม (จีวร) น่าเกลียดยิ่งนัก"" (นิธานโต - ปฏิกูลโดยที่พัก (คือกระเพาะอาหาร] (ความปฏิกูล) โดยที่พัก (คือกระเพาะอาหาร ?) เป็น อย่างไร ? ความปฏิกูลโดยที่พักจึงเห็นลงอย่างนี้ว่า "อาหารอัน กลืนเข้าไปที่เปื้อนด้วยอาสยะ ด้วยอาสยะ ๔ อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วนั้น เข้าไป ภายในท้องแล้วจะได้ไปพักอยู่ในภาชนะทำด้วยทองงก็หามิได้ ไปพัก อยู่ในภาชนะ (อันวิเศษอื่นๆ ) มีภาชนะประดับแก้วมณีหรือภาชนะ ทำด้วยเงินเป็นต้นก็หาก็ได้ แต่ว่าถ้าคนอายุ ๑๐ ขวบกลืนลงไป (มัน) ก็ (ไป) พักอยู่ในโอกาสที่เป็นเช่นหลุมคูถอันไม่ได้ล้างมา ๑๐ ปี ๑. ฉบับพม่าเป็น มนฺทปุญญาน์ - บุญน้อย ในมหาฎีกาเป็น มนฺทปุญฺญ แต่ว่าจะเป็น ปัญญาอ่อน หรือบุญน้อย อย่างไหนก็เข้าใจยากอยู่นั่นเองทำไมจึงเป็นเช่นนั้น. ๒. อาสยะ ในที่อื่นหมายถึงกระเพาะก็มี เช่น อามาสยะ หมายถึงกระเพาะอาหาร และ ปกกาสยะ หมายถึงกระเพาะอุจจาระ แต่ในที่นี้ท่านหมายถึงโอกาสหนึ่ง ยังไม่ ถึง อามาสยะ อาหารลงไปถึงนั่นแล้วต้องระคนกับอาโปธาตุ ๔ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ ทั้ง ๔ อย่าง คือ น้ำดี เสมหะ บุพโพ และโลหิต แล้วจึงเลื่อนต่อไปถึง อามาสยะ (?) ข้อนี้พอเห็นเค้า อาหารที่สำรอกออกมามีสีแปลก ๆ ก็มี ดังที่เราพูดกันว่า "ราก เขียวรากเหลือง"
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More