ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 201
[แรกเกิดรพระราชา]
ครั้นการลักทรัพย์ การติโทษ การพูดเท็จ และการจับท่อนไม้
(เป็นอาวุธ) เกิดขึ้นอย่างนั้นแล้ว พวกเขาจึงประชุมคิดกันว่า "ถ้า
กระไร เราทั้งหลายพึงสมมตสัตว์ผู้หนึ่งขึ้น ในเราทั้งหลาย สัตว์ผู้ใดเล่า
จึงตำหนิผู้ควรตำหนิ จึงติโทษผู้ควรติโทษ จึงขับไล่ผู้ควรขับไล่ได้
โดยถูกต้อง อนึ่ง เราทั้งหลายจักเพิ่มให้ ซึ่งส่วนแห่งข้าวสาลีแก่สัตว์
ผู้นั้น " ดังนี้ ก็แล ในสัตว์ทั้งหลาย ที่ทำความตกลงกันอย่างนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นี้แหละ เป็นพระโพธิ์สัตว์ในกัปนี้ก่อน
สมัยนั้น ทรงเป็นผู้มีพระรูปงามกว่า (ใครหมด) เป็นขวัญตายิ่งกว่า
(ใครหมด) และเป็นมเหสักข์ (ผู้ที่คนทั้งหลายยกย่องว่าเป็นผู้ใหญ่)
ยิ่งกว่า (ใครหมด) ในบรรดาสัตว์ทั้งหลายนั้น เป็นผู้ถึงพร้อมด้วย
พุทธิ (คือปัญญา) สามารถจะทำนิคนะและปักหะ (คนในปกครองได้)
เขาทั้งหลายจึงเข้าไปหาท่าน อ้อนวอน (ให้ท่านรับตำแหน่ง) แล้ว
สมมตขึ้น พระโพธิสัตว์นั้นปรากฏ โดยพระนาม ๓ คือ พระนาม ว่า
(พระเจ้า) มหาสมมต เพราะเป็นผู้ที่มหาชนนั้นสมมตขึ้น พระนามว่า
กษัตริย์ เพราะทรงเป็นจ้าวเป็นใหญ่แห่งเกษตรทั้งหลาย พระนามว่า
ราชา เพราะทรงยังผู้อื่นให้ยินดีโดยธรรมสม่ำเสมอกัน ก็ตำแหน่งใด
นับเป็นตำแหน่งอัจฉริยะในโลก พระโพธิสัตว์เจ้านั่นเอง ทรงเป็นอาทิ
บุรุษ (คนแรก) ในตำแหน่งนั้นแล ครั้นวงกษัตริย์ยกพระโพธิสัตว์
เป็นต้นเดิมก่อตั้งขึ้นอย่างนั้นแล แม้วรรณะทั้งหลายมีพราหมณ์เป็นต้น
ก็ก่อตั้งขึ้นโดยลำดับ