ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ -
หน้าที่ 82
ฌานอันยังเป็นปริตกุศลได้แล้ว (ตายไป) ได้กำเนิดที่ไหน ? ตอบว่า
ได้กำเนินร่วมกับพวกเทพเหล่าพรหมปาริสัชชา " ดังนี้เป็นอาทิ" ส่วน
การเจริญอุปจารสมาธิเหล่า ก็นำภพวิเศษคือสุคติชั้นกามาวจร ๖ มาให้
เหมือนกัน
[มีนิโรธเป็นอานิสงส์]
(๕) ส่วนว่าพระอริยะเหล่าใดยังสมาบัติ ๘ ให้เกิดแล้วเข้านิโรธ
สมาบัติ เจริญสมาธิด้วยประสงค์ว่า จักเป็นผู้ไม่มีจิต (คือดับความคือ
เสีย) (เข้า) ถึงนิโรธนิพพานอยู่สำราญในทิฏฐธรรมนี่สัก ๒ วันเถิด
การเจริญอัปปนาสมาธิแห่งพระอริยะเหล่านั้น ชื่อว่ามีนิโรธเป็นอานิสงส์
เหตุนั้น พระสารีบุตรจึงกล่าวไว้ว่า "ความรู้ในการเจริญความเป็นวสี
(คล่องแคล่วในการเข้านิโรธสมาบัติ) ด้วยญาณจริยา (ทางญาณ) ๑๖
ด้วยสมาธิจริยา (ทางสมาธิ") 8 จัดเป็นญาณในนิโรธสมาบัติ"
คือยังเกี่ยวด้วยวัตถุกาม เพราะยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้
ด.
๒. อภิ. วิ. ๒๕/๕๗๑.
๓.
. มหาฎีกาว่า "ญาณจริยา ๑๖ คืออนิจจานุปัสสนา ทกฺขานุปัสสนา อนัตตานุปัสสนา
นิพพิทานุปัสสนา วิราคานุปัสสนา นิโรธานุปัสสนา ปฏินิสสัคคานุปัสสนา วิวัฏฏานุ
ปัสสนา เป็น ๘ รวมกับมรรคญาณและผลญาณ ๘ เป็น ๑๖ ส่วนสมาธิจริยา ๔ หมายเอา
สมาธิในรูปฌาน ๕ อรูปกฌาน ๔ ลางอาจารย์ว่า ได้แกสมาธิในรูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔
เพิ่มอุปจารสมาธิแห่งฌานทั้ง 4 นั้นเข้า ๑ เป็น 8.
ตรงนี้ ไม่เข้าใจตลอดสาย ข้อต้นไม่เข้าใจว่า คำในปฏิสัมภิทาที่ท่านชักมาอ้างนั้น
สมกับเรื่องเข้านิโรธสมาบัติตรงไหน ? ข้อสอง นิโรธสมาบัติ ถึงจะมีญาณอะไร ก็คง
เป็นโลกิยะอยู่ แต่ท่านแก้ญาณจริยาถึงมรรคถึงผลอันเป็นโลกุตตระ จะไปกันได้หรือ ?
ข้อสาม สมาธิจริยา น่าจะแก้ตามตามแนวอนุปุพวิหาร ๔ ให้เข้าเรื่องนิโรธสมาบัติไป ?
๔. ขุ. ป. ๓๑/๑๔๓.