ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 238
(กำหนดไว้ด้วย) อำนาจกาล (คือภพ) เป็นอารมณ์ อนึ่ง แม้ใน
เพราะมีอารมณ์เดียวกัน ก็อิทธิเท่านั้นย่อมรู้จิตคนอื่นได้ จิตนอกนี้
หารู้ได้ไม่ เปรียบเหมือนจักขุวิญญาณในจักขุทวารเท่านั้นย่อมเห็นรูปได้
วิญญาณนอกนี้หาเห็นได้ไม่ฉะนั้น
เจโตปริยญาณนี้เป็นปัจจุบันนารมณ์ ด้วยอำนาจแห่งสันตติปัจจุบัน
และอัทธาปัจจุบันโดยนัยดังนี้
อีกอย่างหนึ่ง เพราะเหตุที่แม้สันตติปัจจุบัน ก็ย่อมเป็นไปใน
อัทธาปัจจุบันเหมือนกัน เพราะเหตุนั้น สันตติปัจจุบันนั่น ก็พึงทราบว่า
เป็นปัจจุบันนารมณ์ด้วยอำนาจแห่งอัทธาปัจจุบันนั่นเอง
ก็แลเจโตปริยญาณนั้นจัดเป็นพริธารมณ์ ก็เพราะมีจิตของ
คนอื่นเป็นอารมณ์แท้แล
ความเป็นไปในอารมณ์ 4 แห่งเจโตปริยญาณ บัณฑิตพึงทราบ
โดยประการดังกล่าวมาฉะนี้
[ปุพเพนิวาสญาณเป็นไปในอารมณ์ 4]
ปุพเพนิวาสญาณ ย่อมเป็นไปในอารมณ์ 4 โดยเป็นปริตตารมณ์
มหัคคตารมณ์ อัปปมาณารมณ์ มัคคารมณ์ อตีตารมณ์ อัชฌัตตารมณ์
พหิทธารมณ์ และวัดตัพพารมณ์ (มีเรื่องไม่ควรกล่าวเป็นอารมณ์)
เป็นไปอย่างไร ? ก็แลบุพเพนิวาสญาณนั้น ในกาลทีระลึกถึงขันธ์ที่
เป็นกามาวจร ก็เป็นปริตตารมณ์ ในกาลที่ระลึกถึงขันธ์ที่เป็นรูปาวจร
และอรูปวจร ก็เป็นมหัคคตารมณ์ ในกาลที่ระลึกถึงมรรคที่ตนหรือ