ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 222
สำเร็จได้ในทิฏฐธรรมนี้แน่ อุปมาฉันใด อุปไมยนี้ก็ฉันนั้น สาริบุตร
เรากล่าวว่า บุคคลไม่เลิกคำพูดอันนั้น ไม่ละความคิดอันนั้น ไม่สละ
ทิ้งความเห็นอันนั้น เสียแล้ว ย่อมเป็นผู้ถูกเก็บไว้ในนรก ดุลถูกเขานำ
(ตัว) ไปเก็บไว้ฉะนั้น" อนึ่ง โทษอื่นที่ชื่อว่ามีโทษมากกว่ามิจฉา
ทิฏฐิหามีไม่ ดังพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรา
ไม่เห็นธรรมอื่นสักอย่างหนึ่ง ซึ่งมีโทษมากยิ่งอย่างนี้ เหมือนดังมิจฉา
ทิฏฐินี้เลย ภิกษุทั้งหลาย โทษทั้งหลายมีมิจฉาทิฏฐิเป็นอย่างยิ่ง
ดังนี้
ม
[อบาย ทุคติ วินิบาต นิรยะ]
คำว่า "เพราะความแตกไปแห่งกาย" คือเพราะความสละไป
แห่งอุปาทินนขันธ์ (ขันธ์ที่วิญญาณครอง) คำว่า "เบื้องหน้าแต่
ตายไป " คือในการถือเอาขันธ์ที่เกิด (ใหม่) ในลำดับแห่งอุปาทินนา
ขันธ์ (ที่สละไป) นั้น หรือนัยหนึ่งคำว่า "เพราะความแตกไปแห่ง
กาย" คือเพราะความขาดไปแห่งชีวิตนทรีย์ คำว่า "เบื้องหน้าแต่
ตายไป " คือต่อจากจุติจิตไป
คำว่า "อบาย" ดังนี้เป็นต้น ทุกคำเป็นไวพจน์ของคำนิรยะนั่นเอง
จริงอยู่ นิรยะ จัดเป็นอบาย เพราะปราศจากอายะ ที่รู้กันว่าบุญ
อันเป็นเหตุแห่งสรรค์และนิพพาน หรือว่าเพราะความไม่มีแห่งอายะ
๑. หมายถึงคำพูด และความคิดเห็นที่เป็นอริยุปวาย
๒. ม. มู ๑๒/๑๔๕
๓. องฺ. เอก. ๒๐/๔๔.