ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 179
วิมุติทั้ง ๕ อย่างนั้น ชื่อว่าวิมุตจิต (จิตยังไม่พ้น)
ภิกษุผู้ได้เจตโตปริญาณ ย่อมรู้จิตทุกประการว่า "จิตนี้เป็นจิตมี
ราคะหรือ ฯลฯ หรือว่าเป็นจิตยังไม่พ้น" ด้วยประการฉะนี้แล
เจโตปริยญาณกถา จบ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณกถา
[อรรถาธิบายศัพท์บาลีในญาณนี้
ในปุพเพนิวาสานุสสติญาณกถา มีอรรถาธิบายว่า บทว่า "ปุพฺเพ-
นิวาสานุสสติญาณาย - เพื่อปุพเพนิวาสานุสสติญาณ" คือญาณใด
(จะพึงเป็นไป) ในปุพเพนิวาสานุสสติ เพื่อประโยชน์แก่ญาณนั้น คำ
ว่า "ปุพเพนิวาส" หมายถึงขันธ์ที่ตนอาศัยอยู่ในปางก่อน คือในชาติ
ที่ล่วงแล้วทั้งหลาย คำว่า "นิวุฏฺฐ - ที่ตนอาศัยอยู่ " หมายความว่าที่
ตนครอบครองมา ที่ตนเสวยมา ที่มันเกิดดับอยู่ในสันดานของตนมา
* จิต ๘ คู่นี้ เป็นอย่างเดียวกันกับที่กล่าวในจิตตานุปัสนาสติปัฏฐาน ซึ่งในที่นั้นท่าน
ให้พิจารณารู้จิตของตนเอง ตามที่มันเป็นอย่างไร แต่ในที่นี้เป็นการรู้จิตของคนอื่นที่
เป็นเช่นนั้น
ในอรรถกถามหาสติปัฏฐานสูตรว่า จิตเหล่านี้เป็นโลกิยจิตทั้งนั้น เช่น สอุตตรจิต
ท่านก็ว่าได้แก่กามาวจร อนุตตรจิต ได้แก่รูปาปาวจร วิมุตจิต ก็หมายเพียง ตทังค
วิมุต และวิกขัมภนวิมุต แต่ที่นี่แก้ถึงโลกุตระก็มี เช่นอนุตตรจิต ว่าได้แกโลกุตตรจิต
วิมุตจิต ก็แก่ถึงสมุจเฉท...
ก็น่าคิดอยู่ว่า อภิญญา ๕ นี้ เป็นโลกิยอภิญญา ผู้ได้เจโตปริยญาณนี้ก็ยังไม่ได้บรรลุ
มรรคผล จะไปรู้โลกุตตรจิตได้อย่างไร ?