ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 130
[อาวิภาวปาฏิหาริย์ - ทำสิ่งกำบังให้เปิดเผย]
ในปาฏิหาริย์ ๒ อย่างนั้น ภิกษุผู้มีฤทธิ์นี้ใคร่จะทำอาวิภาว
ปาฏิหาริย์ ย่อมทำที่มืดให้สว่างบ้าง ทำสิ่งกำบังให้เปิดเผยบ้าง ทำสิ่งที่
ไม่มีอยู่ในคลอง (จักษุ) ให้อยู่ในคลอง (จักษุ) บ้าง ทำอย่างไร ? ก็
ภิกษุนี้ใคร่จะทำตนหรือคนอื่นก็ตาม ให้เป็นอย่างที่แม้ถูกสิ่งอื่นปิดบังอยู่
หรือแม้อยู่ในที่ไกลก็มองเห็นได้ ออกจากฌานที่เป็นบาทแล้ว ก็นึก
หน่วงบริกรรมไปว่า "ที่มืดนี้จงกลายเป็นสว่าง" หรือว่า "ที่กำบังนี้จง
เป็นที่เปิด " หรือว่า "สิ่งที่ไม่อยู่ในคลอง (จักษุ) นี้ จงเป็นสิ่งที่อยู่ใน
คลอง (จักษุ)" แล้วอธิษฐานโดยนัยที่กล่าวแล้วนั่นแล พร้อมกับจิต
อธิษฐาน มันก็จะเป็นตามที่อธิษฐานทีเดียว คนอื่น ๆ แม้อยู่ไกลก็
(มองหา) เห็น (ตน) ผ่ายตนอยากจะเห็น (เขา) บ้าง ก็ (มองไป) เห็น
ถามว่า (อาวิภาว) ปาฏิหาริย์นี้ใครเคยทำ ? ตอบว่าพระผู้มีพระ
ภาคเจ้า จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้า (ประทับอยู่ ณ เมืองสาวัตถี) นาง
จุลสุภัททา (อยู่เมืองสาเกต) กราบมูลนิมนต์ (พร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐)
เมื่อเสด็จจากเมืองสาวัตถีสู่เมืองสาเกต อันมีระยะทาง ๓ โยชน์ (ทาง
อากาศ) ด้วยเรือนยอด ๕๐๐ หลังซึ่งพระวิสสุกรรมนิรมิตถวาย (ครั้ง
นั้น) ได้ทรงอธิษฐานอย่างที่ชาวเมืองสาเกตมองเห็นชาวเมืองสาวัตถีได้
และชาวเมืองสาวัตถีก็มองเห็นชาวเมืองสาเกตได้ เสด็จลง (จากอากาศ)
ที่ตรงกลางเมืองทีเดียว แล้วทรงแสดงแยกแผ่นดิน (ให้เห็นลงไป)
กระทั่งถึงอเวจี และทรงแหวกอากาศ (ให้เห็นขึ้นไป) จนถึงพรหมโลก
อนึ่ง ความข้อนี้ บัณฑิตควร (แสดง) ให้แจ่มแจ้งด้วยเรื่อง