ข้อความต้นฉบับในหน้า
- หน้าที่ 15
154
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - 1
ฝ่ายนาคราชคิด (แค้น) ว่า "เมื่อเข้าไป ข้าฯ ไม่ (ทัน)
เห็นก็ช่างก่อนเถิด เวลาออกมาทีนี้ละ ข้าฯ จะต้องยัดแกเข้าซอก
เขี้ยวขบเสียจงได้ " จึงแสร้งพูด (อ้อนวอน) ว่า "นิมนต์ออกมา
เถิด เจ้าข้า โปรดอย่าเดินไปมาอยู่ในท้องทำข้าพเจ้าให้ลำบากเลย"
พระเถระก็ออกมายืนอยู่ข้างนอก นาคราชพอเห็นว่านี้คือท่าน ก็
ปล่อยลมนาสวาต (คือพ่นลมออกทางจมูกอย่างแรง สามารถพัดเอา
ข้าศึกไปได้ ?) พระเถระเข้าจตุตถฌาน (ทันที) ลม (นั้น) ไม่อาจ
ทำแม้แต่เส้นขน“ของท่านให้ไหว
นัยว่า ภิกษุนอกนั้นพึงอาจทำปาฏิหาริย์ทุกอย่างตั้งแต่ต้นมาได้
แต่ถึงฐานะ (คือกรณีปล่อยลมนาสวาย) นี้เข้า จักไม่อาจเข้าสมาบัติ
เป็นขิปปนิสันติ (เข้าได้ฉับพลัน) อย่างนั้น เพราะเหตุนั้น พระผู้มี
พระภาคเจ้าจึงไม่ทรงอนุญาตการทรมานนาคราชแก่ภิกษุเหล่านั้น
นาคราชคิด (ท้อใจ) ว่า "เราไม่อาจทำแม้แต่เส้นขนขอ
สมณะผู้นี้ให้ไหวได้ด้วยลมนาสวาต สมณะ (นี่) มีฤทธิ์มากนะ"
(เห็นว่าไม่ได้ก็กลัว หนีไป) พระเถระจึงละอัตภาพ (นั้น) แปลง
เป็นรูปครุฑ แสดงสุบรรณวาต (ลมปิกครุฑ คือกระพือปีกทำให้
เกิดลมอย่างแรงขึ้น) ติดตามนาคราช นาคราช (เห็นว่าจะหนี
๑. ถ้าหมายถึงลมออกทางจมูก น่าจะเป็น นาสาวาต ให้ชัดไปทีเดียว เมื่อใช้ว่า นาส..
อาจทำให้เข้าใจเขวไปว่า นาส แปลว่า ทำลาย ก็ได้ การใช้ลมทำอันตรายข้าศึก มี
ด้วยกันทั้งนาคครุฑ นาคใช้พ่นออกทางจมูก เรียกนาสาวาท ครุฑให้กระพือปีก
เรียกว่าสุบรรณวาต (ซึ่งจะกล่าวข้างหน้า)
๒. โลมกูป์ ก็แปลกันว่าขุมขน แต่ถ้าแปลเรียงความไปว่า "ลมไม่อาจทำแม้แต่ขุมขน
ของท่านให้ไหว " ก็เหลือที่จะฟังได้ ในที่นี้จึงแปลเสียว่า "เส้นขน" (ถ้าแปลว่า
"ปลายขน" ได้ ยิ่งวิเศษ)