ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 204
[กำหนดระยะกาลแห่งอสงไขยกัปในอาโปสังวัฏฏะ]
ในกัป ๔ นั้น (ระยะกาล) แต่ (เกิด) มหาเมฆล้างกันไปจนถึง
น้ำกรดล้างกับขาด (หายไป) นี่เป็นอสงไขยหนึ่ง แต่น้ำ (กรด) ขาด
(หายไป) จนถึง (เกิด) มหาเมฆก่อเกิด (โลก) นี่เป็นอสงไขยที่ ๒
แต่ (เกิด) มหาเมฆก่อเกิดไปจนถึงความเกิดปรากฏขึ้นแห่งจันทร์และ
สูรย์ นี่เป็นอสงไขยที่ ๓ แต่ความเกิดปรากฏขึ้นแห่งจันทรและสูรย์ไป
จงถึง (เกิด) มหาเมฆล้างกับอีก นี่เป็นอสงไขยที่ 4 (รวม) 4
อสงไขยนี้ เป็นมหากัป ๑
ความพินาศด้วยน้ำ และความตั้งขึ้นใหม่ (แห่งพุทธเกษตร)
บัณฑิตพึงทราบโดยนัยดังกล่าวมาฉะนี้
[วาโยสังวัฏฏะ]
ในสมัยที่กัปพินาศด้วยลม (คำพรรณนาทั้งปวง) บัณฑิตพึง
(กล่าว) ให้พิสดารตามนัยที่กล่าวในตอนแรก (คือตอนเตโชสังวัฏฏะ)
ว่า "แรกทีเดียว มหาเมฆล้างกัปตั้งขึ้น" ดังนี้เป็นต้นนั่นเถิด แต่
ความ (ต่อไป) นี้เป็นความแปลกกัน ลมตั้งขึ้นเพื่อทำลายกัปในวาโย-
สังวัฏฏะนี้ เปรียบได้กับสูรย์ดวงที่ ๒ ในเตโชสังวัฏฏะนั้น ลมนั้น
แรกก็หอบเอาฝุ่นหยาบขึ้นไป ต่อนั้น ก็หอบเอาฝุ่นละเอียด (ที่ติดดิน)
...ทรายละเอียด ...ทราบหยาบ...สิ่งที่เขื่องขึ้น
สิ่งที่เขื่องขึ้นไปมีหินกรวดเป็นต้น
ดังนี้ไปจนหินก้อนขนาดเรือนยอด และต้นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นอยู่ในที่โคก
ขึ้นไป สิ่งเกล่านั้นขึ้นจากดินไปสู่ท้องฟ้า และไม่ตกลงมาอีก มันเหล็ก