ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 29
มิได้) ว่า "อากาศอันอาศัยกระดูก ๑ อาศัยเอ็น ๑ อาศัยเนื้อ ๑
อาศัยหนัง ๑ ห่อหุ้ม (ตั้งอยู่) ได้ชื่อว่า "รูป" เท่านั้นเอง"
ดังนี้ ภิกษุพึงแยกโกฏฐาสเหล่านั้นออกด้วยมือคือญาณอันแล่นไปตาม
ระหว่างแห่งโกฏฐาสนั้น ๆ กำหนดถือเอาธาตุทั้งหลายโดยนัยก่อน
นั่นแลว่า "ภาวะที่แข็งก็ดี ภาวะที่หยาบก็ดี อันใด ในโกฏฐาส
เหล่านั้น นี่เป็นธาตุดิน" ดังนี้เป็นต้น คะนึงนึกพิจารณาไปโดยว่า
เป็นแต่ธาตุ หาสัตว์หาชีวะมิได้ (โดยบริกรรม) ว่า "ธาตุดิน
ธาตุน้ำ" เป็นอาทิไปแล้ว ๆ เล่า ๆ เมื่อเธอพยายามไปอย่างนั้น
สมาธิอัน (ภาวนา) ปัญญาที่ (ทำกิจ) สอดส่องความแตกต่างแห่ง
ธาตุกำหนดถือเอาได้ เป็นสมาธิไม่ถึงอัปปนา เป็นเพียงอุปจาร
เพราะความที่มีสภาวธรรมเป็นอารมณ์ ย่อมจะเกิดขึ้นโดยไม่ช้าเลย
นี้เป็นภาวนานัยในจตุธาตุววัฏฐาน ที่มาโดยสังเขป
[วิตถารนัย]
ส่วนภาวนานัยในจตุธาตุววัฏฐาน ที่มาโดยพิสดาร พึงทราบดัง
(ต่อไป) นี้
ก็แลพระโยคีผู้มีปัญญาไม่กล้านัก ใคร่จะเจริญกรรมฐานนี้ จึง
เรียนเอาธาตุอย่างพิสดารโดยอาการ ๔๒ ในสำนักของอาจารย์แล้ว อยู่
ในเสนาสนะมีประการดังกล่าวแล้ว ทำกิจทั้งปวงเสร็จแล้วไปในที่ลับ
(คน) เร้นอยู่แล้วจึงเจริญกรรมฐานโดยอาการ ๔ อย่างนี้ คือ โดย
สสัมภารสังเขป (สังเขปโกฏฐาสทั้งหลายเข้าเป็นหมู่ๆ ตามอาการ