ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 193
บ้าง ยัง (มี) ลอยอยู่ในอากาศ ครั้นกัปปวินาสกสูรย์เป็นไป ท้องฟ้า
เป็นปราศจากควัน และก้อนเมฆ ใสราวะวงแว่น (ส่องหน้า) เว้น
เบญจมหานทีแล้ว' น้ำในที่ทั้งหลายมีแม่น้ำน้อยที่เหลือเป็นต้น แห้ง
(หมด)
แต่นั้นไปอีกล่วงกาลนานไกล สูรย์ดวงที่ ๓ ก็เกิดปรากฏขึ้น
เพราะความเกิดปรากฏขึ้นแห่งสูรย์ดวงที่ ๓ ไรเล่า แม้ (เบญจ)
มหานทีก็แห้ง
แต่นั้นไปอีกล่วงกาลนานไกล สูรย์ดวงที่ 4 ก็เกิดปรากฏขึ้น
เพราะความเกิดปรากฏขึ้นแห่งสูรย์ดวงที่ 4 ไรเล่า มหาสระทั้ง ๒ นี้
๔
ය
คือ สระสีหปาตนะ สระหงสหาตหะ สระกัณณมุณฑกะ สระรถการ
สระอโนดาต สระฉัททันต์ สระกุณาละ อันเป็นต้นน้ำ (เบญจ) มหานที
(อยู่) ในนิพพานต์ ก็แห้ง
แต่นั้นไปอีกล่วงกาลนานไกล สูรย์ดวงที่ ๕ ก็เกิดปรากฏขึ้น
เพราะความเกิดปรากฏขึ้นแห่งสูรย์ดวงที่ ๕ ไรเล่า น้ำในมหาสมุทรแม้
แต่พอเปียกข้อองคุลีก็ไม่เหลืออยู่ (แห้งไป) โดยลำดับ
แต่นั้นไปอีกล่วงกาลนานไกล สูรย์ดวงที่ ๖ ก็เกิดปรากฏขึ้น
เพราะความเกิดปรากฏขึ้นแห่งสูรย์ดวงที่ 5 ไรเล่า สกลจักรวาฬก็เกิด
เป็นควันกลุ่มไป (จน) สิ้นยาง (คืออาโปธาตุ) เพราะควัน (รม)
และจักรวาฬนี้เป็นฉันใด แม้แสนโกฏิจักรวาฬก็เป็นฉันนั้น
*
เบญจมหานที ท่านก็ชี้เอาแม่น้ำใหญ่ทั้ง ๕ ในชมพูทวีปของท่าน คงคา ยมุนา
สรภู อจิรวดี มหึ เท่านั้นเอง