ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 143
มนุษย์ทั้งหลายผู้ไม่มีฤทธิ์โดยปกติ ย่อมทำความผุดขึ้นและดำลงในน้ำ
ได้ฉันใด ภิกษุผู้มีฤทธิ์ได้เจโตวสีนั้น ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ย่อมทำ
ความผุดขึ้นและดำลงในแผ่นดิน ดุลผุดขึ้นและดำลงในน้ำก็ได้ฉะนั้น"
อนึ่ง มิใช่แต่ผุดขึ้นและดำลงได้เท่านั้น ในกิจเนื่องด้วยน้ำ
ทั้งหลาย เช่น อาบ ดื่ม ล้างหน้าสิ่งของ เธอต้องการ (ทำ) กิจ
ใด ๆ ก็ทำกิจนั้น ๆ ได้ อนึ่งเล่า ใช่แต่ (อธิษฐานให้) เป็นน้ำได้แต่
อย่างเดียวก็หามิได้ ในของเหลวทั้งหลายเช่นเนยใส น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำ
อ้อย เมื่อเธอต้องการ (ให้เป็น) สิ่งใด ๆ ก็อาวัชนาการถึงสิ่งนั้น ๆ
ทำบริกรรมไปว่า "สิ่งนั้น ๆ จงเป็นเท่านี้" แล้วอธิษฐาน มันก็เป็นตาม
ที่อธิษฐานทีเดียว เมื่อเธอตักขึ้นมาทำให้มันอยู่ในภาชนะเนยใสก็เป็น
เนยใสแท้ สิ่งอื่นมีน้ำมันเป็นต้น ก็เป็นน้ำมันเป็นต้นแท้ น้ำก็เป็นน้ำ
แท้ ในน้ำนั้น เธอต้องการให้เปียกเท่านั้น จึงเปียก ไม่ต้องการให้
เปียก ก็ไม่เปียก อนึ่ง แผ่นดินตรงนั้น เป็นน้ำสำหรับผู้มีฤทธิ์นั้น
เท่านั้น คงเป็นดินสำหรับคนนอกนั้น ที่แผ่นดินตรงนั้น พวกคน
เดินเท้า ก็เดินไปได้ ไปด้วยพาหนะมียานเป็นต้นก็ได้ ทำกิจมีกสิกรรม
เป็นต้น ก็ได้แท้ แต่ถ้าผู้มีฤทธิ์นี้ปรารถนาว่า (ดินตรงนั้น) จงเป็นน้ำ
สำหรับคนทั้งหลายนั้นด้วยไซร้ มันก็เป็นเหมือนกัน ต่อล่วงกาลที่
กำหนดไว้ เว้นน้ำในที่ขังน้ำทั้งหลายมีหม้อและตระพังเป็นต้น ซึ่งมีอยู่
ตามปกติเสีย ที่ที่ผู้มีฤทธิ์กำหนดตัดตอนไว้นอกนั้น ก็ (กลับ) เป็นดิน
ไปตามเดิน
* ขุ. ป. ๓๑/๕๕๓.