ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๒ - หน้าที่ 234
ปัจจุบัน (จิตเป็นปัจจุบันชั่วสันตติแห่งรูป) ๑ อัทธาปัจจุบัน (จิต
เป็นปัจจุบันชั่วกาลภพหนึ่ง) ๑
ในปัจจุบัน (จิต) ๓ อย่างนั้น (จิต) ที่ถึงความเกิดขึ้นตั้งอยู่และ
ดับไป (ขณะหนึ่ง) ชื่อขณะปัจจุบัน ที่นับเนื่องอยู่ใน (ระยะ) ๑-๒
สันตติวาระชื่อสันตติปัจจุบัน
[สันตติปัจจุบัน]
พึงทราบอธิบายในสันตติปัจจุบันนั้น (ดังนี้)
อารมณ์ (คือรูป) ย่อมไม่ปรากฏทันทีแก่คนผู้นั่งอยู่ในที่มืด
แล้วไปสู่ที่สว่าง (ระยะ) ชั่วอารมณ์นั้นปรากฏ ในระหว่างนั้น
พึงทราบว่าเป็น (ระยะ) ๑-๒ สันตติวาระ
รูปย่อมไม่ปรากฏโดยพลันทันที แม้แก่คนผู้เที่ยวไปในที่สว่าง
แล้วเข้าสู่ห้องใน (ระยะ) ชั่วรูปนั้นปรากฏ ในระหว่างนั้น พึงทราบว่า
เป็น (ระยะ) ๑-๒ สันตติวาระ๑
อนึ่ง ภิกษุยืนอยู่ไกล แม้ (มอง) เห็นกิริยาเคลื่อน
เห็นกิริยาเคลื่อนไหวมือ และ
กิริยาท่าทางในการตีฆ้องกลองเป็นต้น ของพวกนักฟ้อนรำ ๒ ก็ยังไม่ได้
๑. มหาฎีกาว่า ชั่วเวลาอันนิดน้อยที่สันคติ คือความสืบต่อแห่งรูปเป็นไปนั้นเรียกว่า
วาระ เมื่อออกจากที่มืดไปสู่ที่สว่าง หรือจากที่สว่างไปสู่ที่มืด ชั่วระยะเวลาที่รูปปรากฏ
ชัดนั้น แบ่งเป็น ๒ วาระ ครึ่งเวลาแรกเป็นอวิภูตวาระ (วาระไม่ชัด) ครึ่งเวลาหลัง
เป็นวิภูตตวาระ (วาระชัด) รวมเข้าด้วยกันเรียกว่า เทวสนฺตติวาระ - สันตติ ๒ วาระ แต่
ความปรากฏชัดแห่งรูปนั้น ลางคนก็เป็นปรากฏเร็วจนไม่พอจะแบ่งเป็น ๒ วาระ เพราะฉะนั้น
ท่านจึงเรียงคำ เอก ไว้ด้วย เป็น เอกเทวสนฺตติวาร แปลว่า สันตติ ๑ หรือ ๒ วาระ
๒. ศัพท์ รชกาน เข้าใจว่าคลาดเคลื่อน รชกะ แปลว่าคนย้อมผ้า คนชักผ้า ไม่เข้า
กับเรื่องเลย ในที่นี้แก้เป็น นฏาน ดังที่แปลไว้นั้น