ข้อความต้นฉบับในหน้า
- หน้าที่ 36
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ -
เดินทางประมาณ ๓ โยชน์ มิได้สังเกตจำทางที่พึงเดิน และทางที่
พึงเว้น ทำการคมนาคมด้วยฝีเท้าอันเร็วตั้ง ๒ เที่ยว ทางไปสุดก็
จริง แต่ (เขาจำทางไม่ได้) ต้องถาม (ผู้อื่น) ไป (ทุกเที่ยว)
ฉะนั้น เพราะเหตุนั้น พระโยคาวจรจึงมนสิการอย่าเร่งนัก
โมนสิการ โดยไม่เรื่องนัก
ก็ฉันเดียวกับมนสิการโดยไม่
อนึ่ง แม้มนสิการโดยไม่เรื่องนัก ก็ฉันเดีย
เร่งนัก เพราะว่าเมื่อมนสิการเรื่องนัก กรรมฐานจะไม่ถึงที่สุด ไม่
เป็นปัจจัยแห่งความได้คุณวิเสส เปรียบเหมือนเมื่อบุรุษผู้ใคร่จะเดิน
ทาง ๓ โยชน์ (ให้ถึง) ในวันเดียวนั้น มัวโอ้เอ้ออยู่ตามที่ต่าง ๆ
เช่นต้นไม้ ภูเขา และบึง ในระหว่างทางเสีย ทางก็ไม่เปลือง ต่อ
๒-๓ วันจึงสุดฉะนั้น
[มนสิการโดยป้องกันความฟุ้งซ่าน]
ข้อว่าโดยป้องกันความฟุ้งซ่าน ความว่าการที่จิตปล่อยกรรมฐาน
เสียแล้วฟุ้งไปในอารมณ์หลากหลายในภายนอก (นั้น) พระโยคาวจร
ต้องป้องกัน เพราะเมื่อไม่ป้องกัน ครั้งความฟุ้งไปข้างนอกมีอยู่ กรรม
ฐานย่อมเสื่อมหายทลายไป เปรียบเหมือนเมื่อบุรุษผู้เดินทางเลียบ
เหวอันเป็นทางเอกบท (รอยเดียว คือแคบเต็มที่ วางเท้าได้ทีละข้าง ?)
ไม่สังเกตรอยที่จะเหยียบให้แม่น มัวเหลียวข้างนั้นข้างนี้ ก้าวเท้าพลาด
(รอย) ก็จะต้องตกจากทางนั้นลงไปในเหวอันลึก ๑๐๐ ชั่วตัวคน
* โอกุกมนวิสชุชน์ มหาฎีกาแก้เป็น ปฏิปชฺชิตพฺพวิสชฺชิตพฺเพ มคฺเค