ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 157
สำเร็จแต่เพียงนั้น ใคร่จะทำสีมสัมเภท (การรวมแดน) ต่อไป จึง
ในลำดับนั้น พึงเจริญเมตตาไปในบุคคลผู้เป็นสหายรักกันมาก ต่อ
บุคคลผู้เป็นสหายรักกันมาก พึงเจริญไปในบุคคลที่กลาง ๆ กัน ต่อ
บุคคลที่กลาง ๆ กัน พึงเจริญไปในบุคคลที่เป็นศัตรูกัน และเมื่อเจริญ
ไป จึงจำจิตให้อ่อน ควรแก่การในแต่ละส่วน นำ (ภาวนาจิต)
ไปในลำดับ ๆ กัน (ให้ได้) ส่วนว่าโยคาวจรภิกษุใด บุคคลที่เป็น
ศัตรูกันไม่มีก็ดี แม้เมื่อผู้อื่นทำอนัตถะให้ ความรู้สึกว่าเป็นศัตรูก็ไม่
เกิดขึ้น เพราะความที่เธอเป็นคนจำพวกมหาบุรุษก็ดี โยคาวจรภิกษุ
ผู้นั้นไม่ต้องทำความขวนขวายว่า "เมตตาจิตของเรา ในคนที่กลาง ๆ
กัน เกิดเป็นจิตควรแก่การแล้ว บัดนี้เราจะนำเมตตาจิตนั้นเข้าไปใน
คนเป็นศัตรูกัน (ต่อไป) ดังนี้เลย ส่วนคำที่ว่าให้เจริญเมตตาใน
บุคคลผู้เป็นศัตรูกัน ต่อจากคนกลาง ๆ กันนั้น ข้าพเจ้ากล่าวหมายเอา
ผู้ที่มี (คนเป็นศัตรูกัน) ดอก
[การสอนตนเมื่อเกิดปฏิฆะ]
(นัยที่ ๑ ระลึกถึงโทษของความโกรธ]
แต่ถ้าเมื่อเธอนำจิตเข้าไปในคนเป็นศัตรูกัน ปฏิฆะเกิดขึ้นเพราะ
ระลึกถึงความผิดที่เขาทำให้ไซร้ เมื่อเช่นนั้น เธอจึงเข้าเมตตา (ฌาน)
ในบุคคลลำดับหน้า ๆ (มีคนที่รักเป็นต้น) ในบุคคลไร ๆ ก็ได้บ่อย
ออกแล้วทำเมตตาถึงบุคคลนั้นร่ำไป บรรเทาปฏิฆะให้ได้
ถ้าแม้เมื่อเธอพยายามไปอย่างนั้น มันก็ไม่ดับไซร้ ทีนี้
ๆ
* หมายความว่า ไม่ต้องเป็นแดนเป็นตัวเอง คนที่รัก คนกลาง ๆ คนเป็นศัตรูกัน เจริญเมตตา
ต่อทุก ๆ คน โดยลำดับกัน