ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 41
ปรากฏดีกว่า พระโยคีมนสิการ โกฏฐาสนั้นแหละ แล้ว ๆ เล่า ๆ ยัง
อัปปนาให้เกิดขึ้นได้ ก็เหมือนในวันที่ ๓ ได้เต็มบาตร ในเรือนหลัง
ต้นทีเดียวแล้ว (ไป) นั่งฉันเสียในโรงฉันฉะนั้น
โมนสิการ โดยอัปปนา]
ข้อว่า โดยอัปปนา คือ โดยโกฏฐาสที่เกิดอัปปนา นี้เป็น
อธิบายในข้อนั้นคือ บัณฑิตพึงทราบว่าในโกฏฐาสทั้งหลายมีผมเป็นต้น
อัปปนาย่อมมีได้ในโกฏฐาสหนึ่ง ๆ
นี้เป็นอธิบายในข้อว่า "และสุตตันตะ ๓" นั้นว่า สุตตันตะ
นี่คือ อธิจิตต (สูตร) สติภาว (สูตร) โพชฌงคโกสัลล (สูตร)
พระโยคาวจรควรทราบ เพื่อประกอบวิริยสมาธิ
[อธิจิตตสูตร]
ใน ๓ สูตรนั้น สูตรนี้ว่า "ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบ
က
อธิจิต ต้องมนสิการนิมิต ๓ ตามกาลอันควร คือต้องมนสิการ
สมาธินิมิตตามกาลอันควร ต้องมนสิการปัคคหนิมิตตามกาลอันควร
ต้องมนสิการอุเบกขานิมิตตามกาลอันควร ภิกษุทั้งหลาย ถ้าว่าภิกษุ
ผู้ประกอบอธิจิต พึงมนสิการสมาธินิมิตส่วนเดียวเท่านั้นไซร้ ย่อม
เป็นได้ที่จิต (ของเธอ) จะพึงเป็นไปข้างโกสัชชะเสีย ถ้าภิกษุผู้
ฟังตามนี้เข้าใจว่า อาการ ๓๒ นั้น พระโยคาวจรจึงมนสิการให้เกิดอัปปนาได้ทุกอาการ
แต่ว่าอัปปนาจะเกิด ก็ย่อมเกิดในอาการใดอาการหนึ่งแต่อาการเดียวที่ปรากฏดีกว่าเพื่อน ดังกล่าว
ในตอนก่อน หาใช่ว่าเกิดพรึบพร้อมกันทั้ง ๓๒ ไม่