ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 131
ๆ
สัปปายะ) เป็นต้นเหล่านั้นแหละ รักษาไว้ให้ดี ดังพระขัตติย-
มเหสี รักษาพระครรภ์ที่เกิดแต่พระเจ้าจักรพรรดิ และชาวนารักษาท้อง
ข้าวสาลี และข้าวเหนียวฉะนั้น ที่นี้ ครั้นเธอรักษานิมิตนั้นไว้อย่างนี้
แล้ว จึงทำให้ถึงความเจริญงอกงาม โดยวิธีมนสิการบ่อย ๆ ยังอัปปนา
โกศล ๑๐ ประการให้ถึงพร้อม ประกอบความเพียรให้สม่ำเสมอไว้เถิด
เมื่อเธอพยายามอยู่อย่างนั้น จตุกฌานหรือปัญจาฌานจะเกิดขึ้นใน
เพราะนิมิตนั้น โดยลำดับที่กล่าวแล้วในปฐวีกสิณนั่นแล
[วิธีเจริญวิปัสนาต่อ]
[กำหนดนามรูป]
ก็แล ภิกษุผู้มีจตุกฌานหรือปัญจกฌานเกิดแล้วอย่างนี้ เป็นผู้
ใคร่จะเจริญกรรมฐานโดยวิธีสัลลักขณา (คือวิปัสนา) และวิวัฏฏนา
(คือมรรค) แล้วบรรลุปาริสุทธิ์ (คือผล) ในอานาปานสติภาวนานี้
(ต่อไป) ย่อมทำฌานนั้นแลให้ถึงความเป็นวสีด้วยอาการ ๕ แคล่ว
คล่องแล้ว กำหนดนามรูปเริ่มตั้งวิปัสนา ถามว่า เริ่มตั้งอย่างไร ?
ตอบว่า อันโยคาวจรภิกษุนั้นออกจากสมาบัติแล้ว ย่อมเห็นได้ว่า
กรัชกายและจิตด้วย เป็นสมุทัยแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะทั้งหลาย เปรียบ
เหมือนเมื่อเตา (สูบ) ของช่างทอง ถูกชักสูบอยู่ ลมอาศัยสูบและ
ความพยายามที่ควรแก่การนั้นของบุรุษ (ประกอบกัน) ย่อมเข้าออก
ได้ฉันใด ลมอัสสาสะปัสสาสะก็อาศัยกายและจิต (ประกอบกัน)