ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 91
อารมณ์แห่งอานาปานสติสมาธิได้ คอยแต่จะเล่นไปนอกทาง เหมือน
รถที่เทียมด้วยโคโกง แล่นออกนอกทางไปฉะนั้น เพราะฉะนั้น
นายโคบาลใคร่จะฝึกลูกโคโกงซึ่งดื่มน้ำนมแม้โคโกง” (หมอ) จนเติบ
ใหญ่แล้วจึงพราก (มัน) ไปเสียจากแม่ ฝังหลักใหญ่เข้าข้างหนึ่ง
ผูก (มัน) ด้วยเชือกไว้ที่หลักนั้น ทีนี้เจ้าลูกโคของเขาตัวนั้นจะดิ้นไป
ดิ้นมา (แต่) ไม่อาจหนีไปได้ (เหนื่อยเข้าหมดพยศ) ก็จะพึง
หมอบอิง หรือนอนอิงหลักนั้นอยู่นั่นเองฉันใดก็ดี แม้ภิกษุนี้ก็ฉันนั้น
เหมือนกัน ใครจะทรมานจิตร้าย อันเติบขึ้นด้วยการดื่มรสอารมณ์มี
รูปารมณ์เป็นต้นมาเสียนาน ก็พึ่งพราก (มัน) เสียจากอารมณ์มีรูปเป็น
อาทิ เข้าไปสู่ป่าหรือโคนไม้หรือเรือนว่างก็ตาม แล้วผูก (มัน)
ไว้ที่หลักคือลมหายใจออกและลมหายใจเข้านั้นด้วยเชือกคือสติ เมื่อถูก
ผูกไว้อย่างนั้น จิตของเธอนั้นแม้จะดิ้นรนไปมา ก็ไม่ได้อารมณ์ที่เคย
ชินมา (แต่) ไม่อาจตัดเชือกคือสติหนีไปได้ ก็ย่อมจะหมอบและ
นอนอิงอารมณ์ (กรรมฐาน) นั้นเอง โดย (ถึงความเป็น) อุปจาร
และอัปปนา เพราะเหตุนั้น พระโบราณาจารย์ทั้งหลาย จึงกล่าวไว้ว่า
คนจะฝึกลูกโดค พึงผูก (มัน) ไว้ที่หลักฉันใด
พระโยคาวจรในศาสนานี้ ก็พึงผูกจิตของตน
ไว้ที่อารมณ์ (กรรมฐาน) ให้มั่นด้วยสติ
ฉันนั้นเถิด
* มหาฎีกาอธิบายว่า โคโกงนั้นคือโคฝึกยาก ส่วนแม่โคโกง หมายเอาแม่โคที่ขยักน้ำนมไว้
ในเต้าได้ รีดก็ไม่ยอมปล่อยให้ไหลออกหมด !