ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 37
ฉะนั้น เพราะเหตุนั้น พระโยคาวจรจึงควรมนสิการ โดยป้องกันความ
ฟุ้งซ่าน (ด้วย)
[มนสิการโดยล่วงเสียซึ่งบัญญัติ
ข้อว่าโดยล่วงเสียซึ่งบัญญัติ ความว่า บัญญัติว่า เกสา โลมา
เป็นอาทินี้ใด พระโยคาวจรจึงก้าวล่วงเสียซึ่งบัญญัตินั้นแล้วจึงตั้งจิตไว้
แต่ว่า "ปฏิกูล" เหมือนอย่างว่า ในคราวน้ำหายาก คนทั้งหลาย
พบบ่อน้ำในป่าแล้ว ผูกสิ่งอะไร ๆ มีใบตาลเป็นต้นเป็นเครื่องหมายไว้
ในที่นั้นแล้ว มาตามเครื่องหมายนั้น อาบและดื่มได้ แต่เมื่อใด ด้วย
การเที่ยวไปเนือง ๆ แห่งคนเหล่านั้น รอยของคนที่มา ๆ ย่อมจะ
ปรากฏ เมื่อนั้น กิจด้วยเครื่องหมายามีไม่ คนทั้งหลายย่อมไปอาบ
และดื่มได้ทุกขณะที่ต้องการ ฉันใด เมื่อพระโยคาวจรมนสิการไปตาม
บัญญัติว่า เกลา โลมา---- ในเบื้องแรก (จน) ความเป็นปฏิกูล
ปรากฏ ภายหลังจึงเลิกบัญญัติว่า เกลา โลมา---เสีย ตั้งจิตไว้ในความ
เป็นปฏิกูลแต่อย่างเดียว ฉันนั้นแล
โมนสิการ โดยปล่อยลำดับ]
ข้อว่าโดยปล่อยลำดับ มีอรรถาธิบายว่า โกฏฐาสใด ๆ ไม่
ปรากฏ พระโยคาวจรผู้ปล่อยโกฏฐาสนั้น ๆ เสีย มนสิการไป ชื่อว่า
มนสิการ โดยปล่อยลำดับ ก็เมื่อพระอาทิกัมมิกะมนสิการ (โดยอนุโลม
เริ่ม) ว่า เกสา มนสิการก็ดำเนินไปจนสุดจดโกฏฐาสปลาย คือ มุตติ
นี้ทีเดียว และเมื่อมนสิการ (โดยปฏิโลม) ว่า มุตติ มนสิการ