ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 227
อุปนิสัยแห่งวิโมกข์) ยิ่งไปกว่านั้น เพราะเหตุนั้น มุทิตานั้น จึงตรัส
ว่าเป็น วิญญาณญจายตนปรมา (มีวิญญาณัญจายตนวิโมกข์เป็นอย่างยิ่ง)
ส่วนจิตของพระโยคาวจรอุเบกขาวิหารี เป็นจิตยากที่จะถือเอาสิ่ง
ที่ไม่มี เพราะความที่เป็นผู้เพิกเฉยต่อการถือเอาประโยชน์ผู้อื่นมาความ
สุขความทุกข์เป็นต้น เพราะไม่มีความคำนึงว่า "ขอสัตว์ทั้งหลาย
จงเป็นผู้ถึงซึ่งความสุขเถิด" หรือว่า "ขอสัตว์ทั้งหลายจงพ้นจากทุกข์เถิด'
หรือว่า 'ขอสัตว์ทั้งหลายอย่าได้พรากจากความสุขที่ถึงพร้อมแล้วเลย
ดังนี้ก็ดี ทีนี้ เมื่อเธอผู้มีจิตคุ้นในความเพิกเฉยต่อการถือเอาประโยชน์
ผู้อื่น และมีจิตยากที่จะถือเอาสิ่งที่ไม่มีโดยปรมัตถ์ ก้าวล่วงวิญญาณัญ
จายตนะที่ได้บรรลุโดยลำดับแล้ว นำจิตเข้าไปในสิ่งที่ไม่มีโดยสภาวะ
คือในความไม่มีแห่งวิญญาณที่เป็นปรมัตถ์ จิต (ของเธอ) ย่อมจะ
แล่นไปในความไม่มีแห่งวิญญาณนั้น โดยไม่สู้ยากเลย อุเบกขาเป็น
อุปนิสัยแห่งวิโมกข์) ยิ่งกว่านั้นไป เพราะเหตุนั้น อุเบกขานั้น จึง
ตรัสว่าเป็น อากิญฺจญฺญายตนปรมา (มีอากิญจัญญายตนวิโมกข์เป็น
อย่างยิ่ง)
[อัปปมัญญาทำกัลยาณธรรมให้บริบูรณ์]
บัณฑิตได้ทราบอานุภาพของอัปปมัญญาเหล่านั้น โดยความเป็น
· ปาฐะ เป็น สุขทุกฺขาที่ปรมตฺถ...เข้าใจว่าคลาดเคลื่อน ที่ถูกเป็น... ปรตฺถ เพราะ
สุขทุกฺขาทิ ที่เป็นวิเสสนะ ก็บ่งอยู่ว่าเป็น ปรัตถะ ไม่ใช่เรื่องปรมัตถะ ความคิดคำนึง
ก็สนับสนุนว่าเป็นเรื่อง ปรัตถะ ทั้งนั้น แม้บท ปรมตฺถคุคาหโต บรรทัดล่างก็เช่นเดียวกัน
ในที่นี้แปลตามที่เห็นว่าถูก