ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 255
นั้น) ก็จริงอยู่ ถึงกระนั้น ความคิดคำนึง ความรวมใจ ความใสใน
ว่าเราจักนึกหน่วง เราจักเข้า เราจักตั้งอยู่ เราจักออก เราจักปัจจเวกขณ์
ถึงสมาบัตินั่น" นี้ ก็หามีแก่เธอไม่ ถามว่าเพราะเหตุไฉน ? ตอบว่า
เพราะความที่เนวสัญญานาสัญญายตนะละเอียดกว่า ประณีตกว่า อากิญ
จัญญายตนะ เหมือนอย่างว่า พระราชาประทับคอช้างตัวประเสริญ เสด็จ
ไปในถนนในพระนครด้วยราชานุภาพอันยิ่งใหญ่อยู่ (ต่างว่า) ทอด
พระเนตรเห็นพวกช่างฝีมือมีช่างงาเป็นต้น ซึ่งนุ่งผ้าผืนหนึ่งไว้มั่น โพก
ศีรษะด้วยผ้าผืนหนึ่ง มีตัวเปื้อนด้วยผงทั้งหลายมีผงงาเป็นต้น ทำการ
ฝีมือต่าง ๆ มีทันตวิบัติ (ประดิษฐ์งาเป็นรูปต่าง ๆ) เป็นต้น ก็พอ
พระหฤทัยในความฉลาดของพวกเขาด้วยรับสั่งว่า "เออแน่ะ เจ้าพวก
ารย์นี่ฉลาดนะ คูรี ทำการฝีมือถึงเช่นนี้ก็ได้" ดังนี้ แต่จะทรงดำริ
ว่า "เออ เราละสมบัติไปเป็นช่างฝีมือเช่นนั้นเถิดน่ะ" อย่างนี้ หามี
แก่พระองค์ไม่ เพราะเหตุไร เพราะสิริราชสมบัติมีคุณใหญ่กว่า พระ
องค์ก็เสด็จล่วงเลยพวกช่างฝีมือไปเสียเท่านั้นเองฉันใด อันพระโยคา
วจรนั้น ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ทำในใจถึงสมาบัตินั้นโดยว่าเป็นธรรม
ละเอียดก็จริงแล แต่ทว่าความคิดคำนึง ความรวมใจ ความใส่ใจว่า
"เราจักนึกหน่วง เราจักเข้า เราจักตั้งอยู่ เราจักออก เราจักปัจจเวกขณ์
ถึงสมาบัตินั้น" นี้ ไม่มีแก่เธอเลย เธอเมื่อทำในใจถึงสมาบัตินั้น โดย
ว่าเป็นธรรมละเอียดโดยนัยที่กล่าวมาก่อนนั้นแล ก็จะบรรลุถึงสัญญา
อันถึงอัปปนาที่ละเอียดยิ่งนั้น ซึ่งเป็นสัญญาที่เป็นเหตุให้ได้ชื่อว่าเป็น
เนวสัญญีนาสัญญี ชื่อว่าทำจนเป็นสังขาราวเสสมาบัติ