ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 205
หนึ่งอยู่อย่างไร คือ ภิกษุมีมุทิตาแผ่ไปยังสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เหมือน
อย่างเห็นบุคคลผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นที่รักที่เจริญใจแล้ว พึงเป็นผู้บันเทิงใจ
ฉะนั้น"" ดังนี้
ถ้าแม้สหายนักเลง หรือบุคคลที่รักของเธอนั้น เป็นผู้ได้รับความ
สุขมาแล้วในอดีต แต่เดี๋ยวนี้เป็นทุคตะเข็ญใจไป ก็พึงระลึกถึงภาวะที่
เขาได้รับความสุขอันเป็นอดีตนั่นแหละ แล้วถือเอาอาการบันเทิงใจ
(ในอดีต) ของเขานั่นเอง ยังมุทิตาให้เกิดขึ้นว่า เขาผู้นั้น ในอดีต
ได้เป็นผู้มีโภคะมากอย่างนั้น มีบริวารมาอย่างนั้น บันเทิงใจอยู่เป็น
นิตย์อย่างนั้น หรือว่า ถือเอาอาการบันเทิงใจของเขาที่เป็นอนาคตก็ได้
ยังมุทิตาให้เกิดขึ้นว่า ในอนาคตเขาจักได้สมบัตินั้นอีก แล้วเที่ยวไปด้วย
ยานวิเศษทั้งหลาย มีคอช้าง หลังม้า และวอทองเป็นต้น
ครั้งยังมุทิตาให้เกิดขึ้นในบุคคลที่รักได้อย่างนี้แล้ว ทีนี้จึงยัง
มุทิตาให้เป็นไปในคนกลาง ๆ ต่อนั้น ในคนเป็นศัตรู ดังนี้โดยลำดับ
แต่ถ้าปฏิฆะในคนที่เป็นศัตรูเกิดขึ้นแก่เธอโดยนัยที่กล่าวในก่อนนั้นไซร้
ก็พึงระงับมันเสียตามนัยที่กล่าวในเมตตาภาวนานั้น แล้วทำสีมสัมเภท
โดยความมีจิตเสมอในชนทั้ง ๔ คือ ในบุคคล ๓ (ที่กล่าวแล้ว) นี้
และในตนเองด้วย จึงต้องเสพเจริญกระทำให้มาก ซึ่งนิมิตนั้นไป
ก็จะพึงยังอัปปนาให้เจริญได้ด้วยอำนาจแห่งฌาน ๓ (ในจตุกนัย) และ
ฌาน ๔ (ในปัญจกนัย) โดยนัยที่กล่าวแล้วในเมตตาภาวนานั้นแล
ต่อนั้นไป วิกุพพนา คือ มุทิตาภาวนาเป็นอโนธิโสผรณาด้วยอาการ ๕
* อภิ. วิ. ๒๕/๓๓๓