ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 220
ภาวนาเหล่านั้น เป็นเพราะอำนาจแห่งอาการมีความ
คิดเกื้อกูลเป็นต้น อนึ่ง เพราะเหตุที่ภาวนาเหล่า
นั้นเป็นไปในอารมณ์ (คือสัตว์) หาประมาณมิได้
จึงชื่ออัปปมัญญา
(๓ พรหมวิหารข้างต้นสำเร็จได้เพียงตติยฌาน]
ก็แลในภาวนาเหล่านั้น ที่แม้มีลักษณะเป็นอันเดียวกันโดยความ
ที่มีอารมณ์หาประมาณมิได้ (ด้วยกัน) อย่างนี้ ภาวนา ๓ ข้างต้นก็
เป็นกฌานิกา เป็นไปเพียงในฌาน ๓ ในจตุกนัย) และหรือเป็นจตุก
ฌานิกา (เป็นไปเพียงในฌาน ๔ ในปัญจกนัยป เท่านั้น เพราะ
เหตุอะไร เพราะพรากจากโสมนัสไม่ได้ ความพรากจากโสมนัส
ไม่ได้มีแก่ภาวนาเหล่านั้น เพราะเหตุอะไร เพราะภาวนาเหล่านั้น
เป็นทางออกไปแห่งปฏิปักขธรรมมีพยาบาทเป็นต้น ซึ่งเกิดจากโทมนัส
ส่วนภาวนาข้อสุดท้ายเป็นอวเสสเอกฌานิกา (เป็นไปในฌานเดียวที่
เหลือ คือจตุตถฌาน ในจตุกนัย หรือปัญจมฌาน ในปัญจกนัย)
เพราะเหตุอะไร เพราะประกอบด้วยอุเบกขาเวทนา แท้จริง
อุเบกขาพรหมวิหาร อันเป็นไปโดยอาการเป็นกลางในสัตว์ทั้งหลาย
เว้นอุเบกขาเวทนาเสียย่อมเป็นไปไม่ได้แล
ส่วนบุคคลใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า "เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
มหาฎีกาช่วยขยายความว่า เมตตา กรุณา และมุทิตาเป็นทางออกไปแห่งพยาบาท
วิหึสา และอรติ อันเกิดแต่โทมนัสหรือเจือด้วยโทมนัส เพราะฉะนั้น เมื่อพยาบาท วิหึสา
และอรติออกไปแล้ว โทมนัสก็ระงับ กลับเป็นโสมนัส (?)