ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 134
ปัญญาอยู่ (นั้น) สมด้วยคำที่กล่าวไว้ในปฏิสัมภิทาว่า "เมื่อภิกษุรู้
อยู่ซึ่งความมีอารมณ์เดียว ความไม่ส่ายไปแห่งจิต ด้วยอำนาจความ
หายใจออกยาง (เป็นอารมณ์..... สติย่อมตั้งมั่น (อยู่ในอารมณ์นั้น)
ปีตินั้นก็เป็นสิ่งที่เธอรู้ได้ชัดด้วยสตินั้นด้วยความรู้นั้น เมื่อภิกษุรู้อยู่ซึ่ง
ความมีอารมณ์เดียว ความไม่ส่ายไปแห่งจิต ด้วยอำนาจความหายใจ
เข้ายาว (เป็นอารมณ์ ---- ด้วยอำนาจความหายใจออกสั้น (เป็น
อารมณ์)---- ด้วยอำนาจความหายใจเข้าสั้น (เป็นอารมณ์)----ด้วยอำนาจ
ความเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมดหายใจออกหายใจเข้า (เป็นอารมณ์)----
ด้วยอำนาจความเป็นผู้ระงับกายสังขารหายใจออกหายใจเข้า (เป็น
อารมณ์) สติย่อมตั้งมั่น (อยู่ในอารมณ์นั้น) ปีตินั้นเป็นสิ่งที่เธอรู้
ได้ชัดด้วยสตินั้นด้วยความรู้นั้น เมื่อภิกษุนึกหน่วง (ฌาน) อยู่ ปีติ
นั้นก็เป็นสิ่งที่เธอรู้ชัดได้ เมื่อภิกษุรู้อยู่----เห็นอยู่---- ปัจจเวกขณ์อยู่----
อธิษฐานจิตอยู่” ---- ตัดสินใจ
นใจด้วยศรัทธาอยู่---- ประคองความเพียรอยู่----
ยังสติให้ตั้งมั่นอยู่---- ตั้งจิตให้แน่วแน่อยู่---- รู้ด้วยปัญญาอยู่---- รู้ยิ่งซึ่ง
อภิญไญยธรรมอยู่---- กำหนดรู้ซึ่งปริญไญยธรรมอยู่---- ละซึ่งปหาตัพพ
ธรรมอยู่---- เจริญภาเวตพพธรรมอยู่---- ทำให้แจ้งซึ่งสัจฉิกาตัพพธรรม
อยู่ ปีตินั้นก็เป็นสิ่งที่เธอรู้ได้ชัด ปีตินั้นเป็นสิ่งที่ภิกษุรู้ชัดด้วย
คืออธิฐานฌานจิตว่า จักอยู่ในฌานตลอดเวลาเท่านั้นเท่านี้