วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ วิสุทธิมรรคแปล ภาค 2 ตอน 1 หน้า 104
หน้าที่ 104 / 266

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจการพัฒนาอธิจิตตและอธิปัญญาของภิกษุในศาสนาพุทธ โดยเสนอแนวทางการทำความเพียรในอาการต่างๆ เช่น การหายใจเข้าออกอย่างมีสติ และการทำให้กายสังขารสงบ ซึ่งมีการอ้างอิงถึงพระบาลีที่เสนอเกี่ยวกับการรู้เท่าทันการหายใจในนัยต่างๆ เช่น อนุสสามีติ และปสฺสฺสามีติ เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการเจริญญาณและการทำสมาธิตามแนวทางที่พระพุทธองค์ได้ทรงสอน.

หัวข้อประเด็น

-การพัฒนาจิต
-การหายใจในพระพุทธศาสนา
-อธิจิตตและอธิปัญญา
-การทำสติ
-การฝึกกรรมฐาน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 104 ตั้งจิตมั่นแห่งภิกษุผู้เป็นอย่างนั้นอันใด คามตั้งจิตมั่นนี้จัดเป็นอธิจิตต สิกขาในที่นี้ ความรู้ทั่วถึงแห่งภิกษุผู้เป็นอย่างนั้นอันใด ความรู้ทั่วถึง นี้จัดเป็นอธิปัญญาสิกขาในที่นี้ ภิกษุสำหนียก คือส้องเสพ เจริญ ทำให้มากซึ่งสิกขา ๓ ตามที่กล่าวมานี้ในอารมณ์นั้น ด้วยสตินั้น ด้วย มนสิการนั้น ดังนี้ ในจตุกกะที่ ๑ นั้น เพราะเหตุที่ในนัยแรก พระโยคาวจรจึง หายใจออกหายใจเข้าอย่างเดียวเท่านั้น และไม่พึงทำกิจอะไร ๆ อื่น แต่ว่าต่อนี้ไปควรทำความเพียรในอาการทั้งหลายมีการยังญาณให้เกิด เป็นต้น เพราะเหตุนั้น พึงทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระบาลี โดยเป็นวัตตมานกาลว่า---- อนุสสามีติ ปชานาติ---- ปสฺสฺสามีติ ปชา นาติ (---รู้ว่าเราหายใจออก---รู้ว่าเราหายใจเข้า) ดังนี้ในนัยแรก นั้นแล้ว จึงทรงยกพระบาลีเป็นคำแสดงอนาคตกาล โดยนัยว่า สพฺพ กายปฏิสเวที อสฺสสิสฺสามิ (----เราจักเป็นผู้รู้ตลอดกายทั้งหมด หายใจออก) ดังนี้เป็นต้น เพื่อจะทรงแสดงอาการมีการทำญาณให้เกิด เป็นต้น อันควรทำต่อแต่นัยแรกนี้ไป [แก้ ปสฺสมฺภย์ กายสงฺขาร ข้อว่า "เธอสำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้ระงับกายสังขาร หายใจ ออก----หายใจเข้า" นั้น คือเธอใส่ใจว่าเราจักเป็นผู้ระงับ คือทำกาย สังขารที่หยาบให้ค่อยๆ เบาลง ให้ดับไปให้สงบไปหายใจเข้าหายใจออก ความหยาบและละเอียดก็ดี ความระงับก็ดี ในข้อนั้น พึงทราบ นัยแรกหมายถึงวัตถุหมายเลข ๑ และ ๒ ในจตุกกะที่ ๑
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More