ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 216
๓
ไปอีกก็ได้ พรหมวิหารที่เหลือมีกรุณาเป็นต้น ก็พึงเจริญนัยเดียวกัน
นั้นแล นี้เป็นลำดับแห่งการขยายอารมณ์ในพรหมวิหารภาวนานั่น
[อุเบกขาพรหมวิหารเป็นผลลัพธ์แห่งพรหมวิหาร ๒ ข้างต้น
อนึ่ง อารูปเป็นผลลัพธ์แห่งกสิณทั้งหลาย เนวสัญญนาสัญญาย
ตนะเป็นผลลัพธ์แห่งสมาธิทั้งหลาย ผลสมาบัติเป็นผลลัพธ์แห่งวิปัสนา
นิโรธสมาบัติเป็นผลลัพธ์แห่งสมถะวิปัสนาฉันใด อุเบกขาพรหมวิหาร
ในพรหมวิหารภาวนานี้ ก็เป็นผลลัพธ์แห่งพรหมวิหาร ๓ ข้างต้นฉันนั้น
เพราะเหมือนว่ายังมิได้ตั้งเสา ยังมิได้ยกชื่อและจันทันแล้ว ก็ไม่อาจ
วางจั่วและกลอนในอากาศได้ฉันใด เว้นตติยฌานในพรหมวิหาร ๓
က
ข้างต้นเสีย ก็ไม่อาจทำ (อุเบกขา) จตุตถฌานให้เกิดได้ฉันนั้นแล
[เพาะเหตุไรจึงเรียกพรหมวิหาร เพราะอะไรจึงมา ๔ ฯลฯ]
ในที่นี้ปัญหาจึงมีว่า ก็เพราะเหตุอะไร เมตตา กรุณา มุทิตา
อุเบกขานั่น ท่านจึงเรียกพรหมวิหาร ข้อ ๑ เพราะอะไรจึงมี ๔ ข้อ ๑
อะไรเป็นลำดับแห่งคุณชาตเหล่านั้น ข้อ ๑ เหตุไฉน ในอภิธรรม
ท่านจึงเรียกอัปปมัญญา ข้อ ๑ ข้าพเจ้าขอเฉลย (ดังต่อไปนี้)
ข้อแรก ความเป็นพรหมวิหาร ในคุณชาตมีเมตตาเป็นอาทินั่น
พึงทราบ (ว่าเป็น) เพราะอรรถว่าเป็นธรรมประเสริฐ และ
เพราะความเป็นธรรมหาโทษมิได้ แท้จริง ธรรมเหล่านั้น จัดว่าเป็น
วิหารธรรมอันประเสริฐ เพราะภาวะที่เป็นความปฏิบัติชอบในสัตว์