ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 199
ข้อว่า 'เทวดารักษา' คือเทวดาทั้งหลายย่อมรักษา (ผู้มีเมตตา
เป็นวิหารธรรม) ดุจมารดาบิดาทั้งหลายรักษาบุตรฉะนั้น
ข้อว่า "ไฟก็ดี พิษก็ดี ศัสตราก็ดี ไม่แผ้วพานเขา" อธิบายว่า
ไฟเล่าก็ไม่แผ้วพาน คือไม่เข้าในร่างกายของผู้มีเมตตาเป็นวิหารธรรม
ดุจไฟไม่เข้าในร่างกายของอุตตราอุบาสิกา” ฉะนั้น พิษเล่าก็ไม่แผ้วพาน
คือไม่เข้าในร่างกายของผู้มีเมตตาเป็นวิหารธรรม ดุจพิษไม่เข้าในร่าง
กายของพระจุฬสิวเถระผู้สวดสังยุตนิกายฉะนั้น ศัสตราเล่าก็ไม่แผ้วพาน
คือไม่เข้าในร่างกายของผู้มีเมตตาเป็นวิหารธรรม ดุจศัสตราไม่เข้าใน
ร่างกายของสังกิจจสามเณรฉะนั้น มีอธิบายว่า ไฟก็ดี พิษก็ดี ศัสตราก็ดี
ย่อมไม่ทำร่างกายของท่านผู้มีเมตตาเป็นวิหารธรรมนั้นให้กำเริบได้และ
ในข้อนี้ บัณฑิตทั้งหลายกล่าวเรื่องแม่โคนม (เป็นนิทัสนะ) บ้างก็ได้
มีเรื่องเล่าว่า แม่โคนมตัวหนึ่ง ยืนปล่อยกษีรธารา (สายน้ำนม)
ให้แก่ลูกโคอยู่ พรานผู้หนึ่ง คิดจะแทงมัน จึงควงหอกด้ามยาวพุ่งไป
หอกนั้น (ไป) ถึงร่างมันเข้าก็ปลิวไปดังใบตาล (ไม่เข้า) (ทั้งนี้) ด้วย
กำลังแห่งอุปจารสมาธิก็หามิได้ ด้วยกำลังแห่งอัปปนาสมาธิก็หามิได้
เลย (แต่) ด้วยความที่แม่โคนั้น มีจิตรักใคร่เป็นกำลังในลูกโคเท่านั้น
เมตตามีอานุภาพมากดังนี้แล
ตกลงจะบวช เดินไปโบสถ์ ยังพกเงินอยู่อีก ถ้าถุงเงิน ไม่หล่นเสียก่อน มีพกเข้าไปถึง
ในโบสถ์หรือ ฟังดูราวกะเป็นคนไม่รู้เหนือรู้ใต้ ท่านเล่าเลอะเลือนหรือเปล่า
สำเร็จอรหัตด้วยกรรมฐานอะไร สำเร็จเมื่อไร ท่านก็ไม่เล่า ไปโผล่เอาตอนจบว่า ปริ
นิพพานอยู่ที่จิตตบรรพตนั้นเอง
* อุตตราอุบาสิกาถูกนางสิริมารดด้วยน้ำมันเดือด ๆ ที่ว่าไฟไม่เข้า หมายความว่าไม่ร้อนกระมัง