ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 253
ก็แลด้วยภาวนานุกรมเพียงเท่านี้ โยคาวจรภิกษุนั้น เรียกว่า
"ก้าวล่วงอากิญจัญญายตนะโดยประการทั้งปวงแล้ว เข้าถึงเนวสัญญา
นาสัญญายตนะอยู่"
แก้อรรถปาฐะในเนวสัญญานาสัญญายตนะ
แม้ในที่นี้ บทว่า 'สพฺพโส - โดยประการทั้งปวง" นี้ก็มีนัยดัง
กล่าวแล้วนั่นแล ในคำว่า "ก้าวล่วงอากิญจัญญายตนะ" นั้นเล่า ก็
หมายเอาทั้งฌานทั้งอารมณ์เป็นอากิญจัญญายตนะ โดยนัยที่กล่าวมา
ก่อนเหมือนกัน จริงอยู่ แม้อารมณ์ที่ชื่ออากิญจัญญายตนะ เพราะ
อรรถวิเคราะห์ว่า "อากิญจะ” (วิญญาณไม่มีสักน้อย) ด้วย อากิญจะ
นั้น ชื่อว่าเป็นอายตนะ โดยอรรถว่าเป็นที่อาศัยอยู่ ดุจ (คำว่า)
เทวายตนะ ของเทวดาทั้งหลาย เพราะอากิญจะนั้นเป็นอารมณ์ของ
อรูปฌานที่ ๓ ด้วย" ดังนี้ ตามนัยแรกนั่นแล อีกนัยหนึ่ง อารมณ์ชื่อ
อากิญจัญญายตนะ เพราะอรรถวิเคราะห์ว่า "อากิญจะด้วย อากิญจะ
นั้นชื่อว่าเป็นอายตนะ โดยอรรถว่าเป็นที่กำเนิด ดังคำว่า "แคว้น
กัมโพชาเป็นอายตนะ (คือถิ่นกำเนิด) ของม้าทั้งหลาย" เป็นต้น
เพราะอากิญจะนั้น เป็นเหตุกำเนิดแห่งฌานนั้นเหมือนกันด้วย" ดังนี้
ก็ได้ เพราะเหตุที่เนวสัญญานาสัญญายตนะนี้ พระโยคาวจร จำต้องก้าว
ล่วงเสียทั้งสองอย่างนั้น คือทั้งฌานทั้งอารมณ์อย่างนั้น โดยทำมิให้
(อากิญจัญญายตนะนั้น) เป็นไปและโดยไม่ทำในใจถึง (อากิญจัญญา
ยตนะ) เสียเท่านั้น จึงจะเข้าถึงอยู่ได้ เพราะเหตุนั้น คำว่า "ก้าว
* น่าจะใช้ อากิญจญฺญ เพราะเป็นศัพท์มีนิปผันรูป ส่วนอากิญฺจ ไม่มีนิปผันรูป