ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 197
ว่า "แน่ะอุบาสก ตั้งแต่กาลที่บรรพชาแล้วไป ท่านจะจัดการไม่ได้
ท่านจงจัดการมันเสียบัดนี้แหละ" ดังนี้ ท่านจึงประกาศว่า "คน
ทั้งหลายผู้มาสู่สถานที่นายวิสาขะบรรพชา อย่างได้มือเปล่า (กลับ) ไป
เลย" แล้วแก้ (ถุง) โปรย (ทานกหาปณะ)" ในวงสีมาแล้ว จึง
บรรพชาอุปสมบท ท่าน (อยู่มา) มีพรรษาครบ ๕ แล้ว (เรียน
ทำมาติกา ๒ มาติกาให้คล่องแล้ว ปวารณา (ออกพรรษา) แล้ว
เรียนเอากรรมฐานที่เป็นสัปปายะแก่แล้ว เที่ยวอยู่บำเพ็ญวัตรสม่ำ
เสมอกันไปในวิหารหนึ่ง ๆ วิหารละ ๔ เดือน ๆ" และ
พระเถระวิสาขะ (นั้น) เที่ยว (บำเพ็ญวัตร)
ไปอย่างนั้นอยู่ (วันหนึ่ง) ยืนอยู่ในกลางป่า
(พิจารณา) ตรวจค้นดูคุณธรรมของตนไป จะ
บันลือเสียง (ให้ปรากฏไว้) จึงได้กล่าวความข้อ
นี้ว่า "ข้าพเจ้าอุปสมบทมาโดยกาลเท่าใด (และ)
มาในที่นี้โดยกาลเท่าใด ในระหว่างกาลเท่านั้นนี้
(ความผิด) ของข้าพเจ้าไม่มีเลย โอ เป็นลาภแท้
นะท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย"
๑. จะเป็นเยี่ยงที่คนไทยเรา (ผู้มีเงิน) จัดให้เจ้านาคโปรยทานที่หน้าโบสถ์ ก่อนจะเข้าไปขอ
อุปสมบท (ซึ่งบัดนี้ไม่ใคร่นิยมกันแล้ว) หรือเปล่า
๒. สมวตฺตวาส มหาฎีกาให้อรรถาธิบายว่า กล่าวกันว่าพระเถระองค์นี้เข้าไปสู่วิหารใด ๆ ท่าน
ไม่คิดว่า "ฉันเป็นอาคันตุกะ” ท่านจะบำเพ็ญวัตรต่าง ๆ ที่ควรบำเพ็ญ เยี่ยงภิกษุประจำในวิหา
นั้น ๆ เสมอกันทุกแห่งที่ท่านไปอยู่ แต่ลางอาจารย์ประสงค์ความว่า อยู่ด้วยวิหารธรรมคือเมตตา
อันเป็นไปเสมอในสัตว์ทั้งปวง เพราะพระเถระองค์นี้เป็นผู้มีเมตตาเป็นวิหารธรรม ทั้งในเวลาก่อ
และหลังบรรลุพระอรหัต