ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 181
(สีมสมเภท - รวมแดน]
ต่อนี้พระโยคาวจรนั้นผู้ทำเมตตาให้มีขึ้นได้บ่อย ๆ (จน) ยัง
สมจิตตา (ความมีจิตเสมอ) ในชนทั้ง 4 คือ ในตนเอง ใน
บุคคลที่รัก ในคนกลาง ๆ ในคนเป็นศัตรูกัน ให้สำเร็จได้อยู่ จึง
ทำสีมสัมเภท (การรวมแดน) ต่อไป นี้เป็นลักษณะแห่งสีมสัมเภท
นั้น (คือ)
ถ้าเมื่อบุคคล (โยคาวจร) นี้ พร้อมด้วยภิกษุที่รักและที่กลาง ๆ
ที่เป็นข้าศึกกัน เป็น ๔ รูปทั้งตนเอง นั่งกันอยู่ในที่แห่งหนึ่ง ต่างว่า
พวกโจรมาบอกว่า "ท่านให้ภิกษุรูปหนึ่งแก่พวกข้าพเจ้า" เมื่อเธอ
ถามว่า "เพราะเหตุไร" ก็ตอบว่า "เพื่อฆ่าภิกษุรูปนั้นแล้ว
เอาเลือดคอทำพลีกรรม" ดังนี้ไซร้ หากว่าภิกษุ (โยคาวจร) นั้น
คิดว่า ในภิกษุเหล่านั้น พวกโจรจงจับภิกษุรูปโน้น ๆ เถิด ดังนี้ละก็
เป็นอันไม่ได้ทำสัมสัมเภทเลย แม้หากเธอคิดว่า "พวกโจรจงจับเรา
เถิด อย่างจับภิกษุ ๓ รูปนี้เลย" ดังนี้ ก็เป็นการยังมิได้ทำสัมสัมเภท
ถามว่า เพราะอะไร ตอบว่า เพราะเธอต้องการ (ให้โจร) จับภิกษุ
รูปใด ๆ ก็ชื่อว่าเธอหาความพินาศให้แก่ภิกษุรูปนั้น ๆ หาประโยชน์
ให้แก่ภิกษุนอกนี้ข้างเดียว ต่อเมื่อใดเธอไม่เห็น (ใคร) สักคนใน
ระหว่าง 4 คน จะควรให้แก่พวกโจร จิตเป็นไปเสมอแท้ทั้งในตนเอง
และคนทั้ง ๓ นั้น เมื่อนั้นจึงชื่อว่าเป็นอันได้ทำสัมสัมเภทแล เหตุนั้น
พระโบราณาจารย์ทั้งหลายจึงกล่าวไว้ว่า