ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 40
က
9
บาตเป็นปกติ) อาศัยหมู่บ้านอันมีตระกูล ๓๒ ตระกูล (เป็นที่
โคจรบิณฑบาต) อยู่ (ไปบิณฑบาต) ต่างว่าได้ภิกษา ๒ ที่ ใน
เรือนหลังแรกทีเดียวแล้ว ก็สละเรือนหลัง 9 ข้าหน้าเสีย (ไม่เข้า
ไปรับภิกษา) วันรุ่งขึ้นต่างว่าได้ ๓ ที่ (ในเรือนหลังแรก) แล้วก็
สละเรือน ๒ หลังข้างหน้าเสีย ในวันที่ ๒ ต่างว่าได้ภิกษาเต็มบาตร
ในเรือนหลังต้นที่เดียวแล้วก็ (ไม่ไปบิณฑบาตต่อไป) ไปโรงฉัน ฉัน
เสียเลยฉันใด คำอุปไมยนี้ก็พึงเห็นฉันนั้น อันอาการ ๓๒ ก็เหมือนหมู่
บ้านมีตระกูล ๓๒ ตระกูล พระโยคาวจรเหมือนปิณฑปาติกภิกษุ การ
ที่พระโยคีทำบริกรรมในอาการ ๓๒ เหมือนการที่ปิณฑปาติกภิกษุนั้น
อาศัยหมู่บ้านนั้น (เป็นที่โคจรบิณฑบาต) อยู่ การที่เมื่อพระโยคี
มนสิการไปๆ สละโกฏฐาสทั้งหลายที่ไม่ปรากฏเสีย ทำบริกรรม (แต่)
ในโกฏฐาสทั้งหลายที่ปรากฏ ๆ ไปจน (เหลือแต่) ๒ โกฏฐาส ก็
เหมือนการที่ปิณฑบาติกภิกษุได้ภิกษา ๒ ที่ ในเรือนแรกแล้วสละเรือน
หลังหนึ่งข้างหน้าเสีย และเหมือนในวันที่ ๒ ได้ ที่แล้วสละเรือน
๒ หลังข้างหน้าเสีย การที่ในโกฏฐาส (ที่ปรากฏแต่) ๒ โกฏฐาสใด
มหาฎีกาว่า เทว ภิกฺขา หมายความว่า เท่ากับภิกษาที่พึงได้ในเรือน ๒ หลัง สำหรับใน
บ้านเมืองเรานี้ใช้ทัพพีตักภิกษาโดยมาก ใช้ถ้วย และขันก็มีบ้าง แต่ในชมพูทวีปและลังกาทวีป
จะใช้อะไร ไม่แจ้ง ในที่นี้จึงใช้คำว่า "ที่" ไว้เป็นกลาง ๆ หมายความว่า เรือนหลัง ๑ ก็ถวาย
ที่ ๑ จะเป็นทัพพีหรือถ้วยขันอะไรก็ตาม
ปิณฑปาติกภิกษุในอุปมานี้ ถือบิณฑบาตไปอีกแบบหนึ่ง คล้ายกับจะถือว่า "เรือนละที่"
เพราะฉะนั้นเมื่อได้ภิกษาในเรือนแรก ๒ ที่แล้ว จึงเว้นเรือนถัดไปเสียหลัง ๑ ไปรับในหลังที่
ต่อไป ถ้าได้หลังแรก ๓ ที่แล้ว ก็เว้นหลังที่ ๓ ไปรับในหลังที่ 4 ต่อไป----ก็ชอบกล ถ้าหลัง
แรกถวาย ๒ ที่ ๓ ที่หรือเต็มบาตรเสียเรื่อยไป เรือนหลังถัด ๆ ไปก็เป็นอันไม่ได้ถวายสักทีละซิ ?
က
အေ