ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 111
สังเกตนิมิตแห่งลมหายใจออกหายใจเข้าที่หยาบได้ง่าย แม้เมื่อลมหายใจ
ออกหายใจเข้าที่หยาบดับแล้ว หลังนั้น ลมหายใจออกหายใจเข้าที่
ละเอียดก็ยังเป็นไป จิตก็ยังไม่ส่ายไปได้ เพราะยังถือเอานิมิตแห่งลม----
ละเอียดได้ดี ยังทำนิมิตแห่งลม----ละเอียดไว้ในใจได้ดี ยังสังเกตนิมติ
แห่งลม----ละเอียดได้ดี ครั้นเมื่อลมหายใจออกหายใจเข้าที่ละเอียดดับไป
เล่า หลังนั้นไป จิตก็ยังไม่ส่ายไปได้ แม้เพราะยังมีนิมิตแห่งลม
หายใจออกหายใจเข้าที่ละเอียดเป็นอารมณ์ เมื่อเป็นดังนี้จึงว่าการทำ
วาตุปลัทธิให้เกิดต่อไปก็ยังมีได้ การยังลมหายใจออกหายใจเข้าให้เป็น
ไปก็มีได้ การเจริญอานาปานสติต่อไปก็มีได้ การบำเพ็ญอานาปานสติ
สมาธิต่อไปก็มีได้ และบัณฑิตทั้งหลายเข้าสมาบัตินั้นก็ได้ ออกจาก
สมาบัตินั้นก็ได้อยู่
กองลมที่ระงับกายสังขารหายใจออกหายใจเข้านับเป็นกาย สิ่ง
ที่เข้าไป (ทำกายนั้นเป็นอารมณ์) ตั้งอยู่ เป็นตัวสติ อนุปัสนา
(ความตามกำหนดดูกายให้รู้ตามที่มันเป็น) เป็นตัวญาณ กายเป็นที่
เข้าไปตั้งอยู่ (แห่งสติ) มิใช่ตัวสติ สติเป็นสิ่งที่เข้าไปตั้งอยู่และ
เป็นตัวระลึกด้วย โยคาวจรภิกษุตามกำหนดดูกายนั้นด้วยสตินั้น ด้วย
ญาณนั้น เพราะเหตุนั้น จึงตรัสว่า การตามกำหนดดูกายในกาย
เป็นการบำเพ็ญสติปัฏฐาน"
นี่เป็นคำพรรณนาบทตามลำดับแห่งจตุกกะที่ ๑ ที่ตรัสได้เป็น
กายานุปัสนา ในอานาปานสตินี้ เป็นอันดับแรก