ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 38
ดำเนินไปจนสุดโกฏฐาสต้น คือ เกสา นี้เหมือนกัน ทีนี้เมื่อมนสิการ
ไป ๆ โกฏฐาสลางเหล่าก็ปรากฏ ลางเหล่าก็ไม่ปรากฏ โกฏฐาส
เหล่าใด ๆ ปรากฏ เธอพึงทำงาน (มนสิการ) ในโกฏฐาสเหล่า
นั้น ๆ ไปจนกว่าเมื่อโกฏฐาสปรากฏ (แต่) ๒ แล้ว ๒ นั้นเล่า
อันหนึ่งย่อมปรากฏดีกว่า (อีกอันหนึ่ง) ก็และพระอาทิกัมมิกะผู้มนสิ
การโกฏฐาสอันนั้นที่ปรากฏ (ดีกว่า) อย่างนั้นนั่นแลซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จะพึงยังอัปปนาให้เกิดขึ้นได้
(ต่อไป) นี้เป็นอุปมาในข้อนั้น เหมือนอย่างว่าพราน (ผู้หนึ่ง)
ใคร่จะจับลิง (ตัวหนึ่ง) ซึ่งอยู่ในดงตาลอันมีต้นตาล ๓๒ ต้น จึงใช้ศร
ยิงใบตาลต้นที่ยืนอยู่ต้นเพื่อนแล้วทำเสียงตะเพิด ทีนี้ ลิงนั้นก็จะพึง
โผนไปที่ต้นตาลนั้น ๆ ตามลำดับจนถึงต้นท้ายเพื่อทีเดียว ครั้น
พรานไปทำอย่างเดียวกันนั้นเข้าที่ต้นท้ายเพื่อนนั้นอีกเล่า มันก็จะพึง
(โผนกลับ) มาท่านั้นแหละจนถึงต้นต้นเพื่อนอีก มันโผนไปตามลำดับ
ต้นบ่อย ๆ เข้าอย่างนั้น (ก็ล้า ? ที่นี้มัน) จะถึงโผล่ขึ้นแต่ในที่ ๆ
พรานทำเสียงตะเพิดไล่เท่านั้น (ถ้าไม่ตะเพิดก็ไม่โผล่) แล้วไป ๆ
ก็จะหลบอยู่ที่ต้นตาลต้นหนึ่ง ยึดยอดตาลตูมอันสะอาด (ซึ่งอยู่) ตรง
กลางต้นมันไว้มั่น แม้ถูกยิงก็ไม่โผล่ ฉันใด คำอุปไมยนี้ก็พึงเห็น
ฉันนั้น (ต่อไป) นี้เป็นคำประเทียบอุปไมยกับอุปมา
โกฏฐาส ๓๒ ในกายนี้เปรียบเหมือนตาล ๓๒ ต้นใจดงตาล จิต
ตามในมหาฎีกาว่า ที่ว่าปรากฏนั้น คือปรากฏโดยลักษณะของโกฏฐาสนั้น ๆ