ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ -
- หน้าที่ 57
สัณฐานดังหน่อเป้งที่ปอเปลือก กระดูกแข้งท่อนเล็ก สัณฐานดังคัน
ธนู" ท่อนใหญ่ สัณฐานดังหลังที่เหี่ยว ๆ กระดูกเข่า สัณฐานดังต่อม
น้ำที่แหว่งไปข้างหนึ่ง กระดูกแข้งตรงที่ตั้งจดในกระดูกเข่านั้น สัณฐาน
ดังเขาโคปลายทู่ กระดูกขา สัณฐานดังด้ามพร้าและด้ามขวานที่ถาก
แต่งหยาบ ๆ กระดูกขาตรงที่ตั้งจดในกระดูกสะเอว สัณฐานดังลูกสะบ้า
กระดูกสะเอวตรงที่ตั้งจดกับกระดูกขานั้น สัณฐานดังผลมะกั่วใหญ่
ปลายปาด กระดูกสะเอว แม้เป็น ๒ ชิ้น แต่มันติดกัน สัณฐานดัง
เตาช่างหม้อ (ถ้าแยกกันออก) แต่ละชิ้น สัณฐานดังคีมช่างทอง
กระดูกตะโพกทางปลาย สัณฐานดังพังพานงูที่เขาจับคว่ำหน้าลง มีช่อง
น้อยใหญ่ ๓-๘ แห่ง กระดูกสันหลังข้างใน สัณฐานดังห่วงแผ่น
ตะกั่วที่วางซ้อน ๆ กันไว้ ข้างนอก สัณฐานดังลูกประคำ ในระหว่าง ๆ
กระดูกสันหลังเหล่านั้น มีเดือยอยู่ ๒-๓ คล้ายฟันเลื่อย ในกระดูก
ซี่โครง ๒๔ ซี่ ซี่ที่ไม่เต็ม (คือสั้น) สัณฐานดังเคียวไม่เต็มเล่ม ซึ่
ที่เต็ม (คือยาวจดกัน) สัณฐานดังเคียวเต็มเล่ม หมดด้วยกันสัณฐาน
ดังปีกกางของไก่ขาว กระดูกอก ๑๔ ชิ้น สัณฐานดังเรือนคานหาม
ที่คร่ำคร่า กระดูกที่หัวใจ สัณฐานดังจวก กระดูกรากขวัญ สัณฐาน
ดังมีดโลหะเล่มเล็ก ๆ กระดูกสะบัก สัณฐานดังจอบชาวสีหลที่เหี้ยน
ไปข้างหนึ่ง กระดูก (ต้น) แขน สัณฐานดังด้ามแว่น กระดูก
ปลายแขน สัณฐานดังรากตาลคู่ กระดูกข้อมือ สัณฐานดังห่วงแผ่น
ตะกั่วที่เขาเชื่อมให้ติดกันตั้งไว้ กระดูกหลังมือ สัณฐานดังกองหัว
* มหาฎีกาว่า หมายถึงคันธนูเล็ก ๆ สำหรับเด็กเล่น