ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค๘ - วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๒ ตอน ๑ - หน้าที่ 97
ความมีอารมณ์เดียว ความไม่ส่ายไปมาแห่งจิต ด้วยอำนาจแห่งการ
หายใจออกยาวอยู่ สติย่อมตั้งมั่น (ในอารมณ์นั้น) เธอก็เป็นสโตการี
ด้วยสตินั้น ด้วยความรู้นั้น (๒) เมื่อเธอรู้ความมีอารมณ์เดียว ความ
ไม่ส่ายไปมาแห่งจิต ด้วยอำนาจแห่งการหายใจเข้ายาวอยู่ สติย่อมตั้งมั่น
(ในอารมณ์นั้น) เธอก็เป็นสโตการด้วยสตินั้นด้วยความรู้นั้น ๆ เปฯ
(๓๑) เมื่อเธอรู้ความมีอารมณ์เดียว ความไม่ส่ายไปมาแห่งจิต ด้วย
อำนาจแห่งความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละละทิ้ง หายใจออกอยู่----
(๓๒) ----ด้วยอำนาจแห่งความเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละละทิ้งหายใจ
เข้าอยู่ สติย่อมตั้งมั่น (ในอารมณ์นั้น) เธอก็เป็นสโตการด้วยสตินั้น
ด้วยความรู้นั้น" ดังนี้
[แก้ศัพท์ อัสสาสะปัสสาสะ]
ในปาฐะเหล่านั้น ปาฐะว่า ทีฆ์ วา อสฺสสนฺโต คือยังอัสสาสะ
ยาวให้เป็นไป หรือ ในอรรถกถาพระวินัยกล่าวว่า ลมออกข้างนอก
ชื่ออัสสาสะ ลมเข้าข้างในชื่อปัสสาสะ แต่ในอรรถกถาพระสูตรทั้ง
หลายมากลับกัน (กับคำอรรถกถาวินัย) ในลม ๒ อย่างนั้น เวลาที่
ครรภ์ไสยกสัตว์ทั้งปวงออกจากท้องมารดา ลมข้างในออกมาข้างนอก
ก่อน ลมข้างนอกพาเอาธุลีละเอียดเข้าข้างในทีหลัง พอถึงเพดานปาก
ก็ดับ” พึงทราบเรื่องลมอัสสาสะและปัสสาสะอย่างนี้ก่อน
๑. ขุ. ป. ๓๑/๒๖๔
๒. มหาฎีกาเสริมความว่า "เพราะอย่างนี้เอง เขาจึงว่าเด็กแรกคลอดมันไอออกมา" คงหมาย
ความว่าเพราะไอออกมาปะทะเสีย ลมเข้าครั้งแรกจึงตับแค่เพดานปาก เช่นนั้นกระมัง